รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในสกุลหน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี), ผักหนาม (นครราชสีมา), ผักชีช้าง (หนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยผัว, สาวร้อยสามี, ศตาวรี ฯลฯ
ลักษณะของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนแปลงมาจากใบเกล็ดบริเวณข้อ) สามารถเลื้อยปีนต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงราว 1.5-4 เมตร แตกแขนงเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวปนเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น รวมทั้งวาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 มม. เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวโดยประมาณ 1-4 มิลลิเมตร รอบๆข้อมีกิ่งแตกกิ่งก้านสาขาแบบรอบข้อ รวมทั้งกิ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 0.5-2.5 มม. ทำหน้าที่แทนใบ มีเหง้าและก็รากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกลุ่มเหมือนกระสวย รูปแบบของรากออกเป็นพวงคล้ายรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามากมาย มีเขตการกระจายประเภทในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย รวมทั้งออสเตรเลีย เจอขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแห้งแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบผู้เดียว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กเหมือนหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกลุ่ม 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก ลักษณะของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างโดยประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร แล้วก็ยาวราว 10-36 มม. แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวราว 13-20 เซนติเมตร
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ มีดอกเป็นช่อกระจะ ยาวราว 2-4 เซนติเมตร โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบรวมทั้งข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวรวมทั้งมีกลิ่นหอม มีประมาณ 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวราว 2 มม. มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ และวงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างราว 0.5-1 มิลลิเมตร และก็ยาวประมาณ 2.5-3.5 มม. กลีบดอกไม้มีลักษณะบางและก็ย่นย่อ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวโดยประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมและก็อยู่ตรงข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านยกอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวราวๆ 1 มม. มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เมล็ด หรือมากยิ่งกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะออกดอกในช่วงโดยประมาณเมษายนถึงมิถานายน1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงค่อนข้างจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบเป็นมัน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-6 มม. ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะกลายเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ข้างในผลมีเม็ดราวๆ 2-6 เม็ด เม็ดเป็นสีดำ เปลือกหุ้มมีลักษณะแข็งแม้กระนั้นเปราะ ผลิดอกออกผลในตอนโดยประมาณม.ย.ถึงก.ค.1,8
ผลรากสามสิบ
เมล็ดรากสามสิบ

สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสเฝื่อนเย็น มีคุณประโยชน์เป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
แบบเรียนยาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กษัย (ราก)
ในประเทศประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่าและต้นจันทน์แดง ผสมกับสุราโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาลดระดับความดันเลือดรวมทั้งลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีคุณประโยชน์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นแนวทางการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
ต้นหรือรากเอามาต้มกับน้ำเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งยังต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสขื่นเย็น ใช้รับประทานเป็นยาแก้พิษร้อนในหิวน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสมหะ4 แก้การตำหนิดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาช่วยขับลม และช่วยลดกรดในกระเพาะ (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับไส้ แก้อาการของกินไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะ โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้อาการท้องร่วง แก้บิด (ราก)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (ใบ)
แบบเรียนยาสมุนไพรพื้นบ้านของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากเอามาต้มกับน้ำเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีคุณประโยชน์เป็นยาแก้ขัดเบา ขับเยี่ยว ช่วยหล่อลื่นแล้วก็กระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการประจำเดือนเปลี่ยนไปจากปกติของสตรี (ราก)
ทั้งยังต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำเป็นยาแก้แท้งลูก (ราก, อีกทั้งต้น)
ในอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นความสามารถทางเพศทั้งยังชายรวมทั้งหญิง คนทางภาคเหนือบ้านเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงสำหรับเพศชาย กินแล้วรื่นเริงเหมือนม้า 3 ตัว ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า "ม้าสามต๋อน" ส่วนหมอยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นต้นเหตุของชื่อ "สาวร้อยสามี" หรือ "สามร้อยผัว" กล่าวคือไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ อายุเยอะแค่ไหนก็ยังมองสาวเสมอ แม้กระนั้นไม่ใช่กินแล้วจะสามารถมีผัวได้เป็นร้อยคน ในแบบเรียนอายุรเวทจะใช้สมุนไพรประเภทนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับเพื่อการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นภาวะรอบเดือนผิดปกติ สภาวะหมดเมนส์ ปวดประจำเดือน ตกขาว มีบุตรยาก ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ช่วยทำนุบำรุงครรภ์ บำรุงน้ำนม คุ้มครองปกป้องการแท้ง อื่นๆอีกมากมาย ส่วนวิธีการใช้ก็ให้นำรากมาต้มรับประทาน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานกับน้ำผึ้ง นอกเหนือจากนี้ยังคงใช้กระตุ้นน้ำนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับรวมทั้งปอดให้กำเนิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับและปอดทุพพลภาพ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้อาการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยทำลายพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยทุเลาอาการระคายเคือง (ราก)
รากใช้กินเป็นยาแก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ครั่นเนื้อครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อรวมทั้งคอ (ราก)
ใบมีสรรพคุณช่วยขับน้ำนม ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กอ่อนในครรภ์ บำรุงน้ำนม บำรุงร่างกายข้างหลังการคลอดบุตรของสตรี (ราก)
ใน "พระคัมภีร์สรรพคุณ (แลมหาพิกัด)" ได้เอ่ยถึงคุณประโยชน์ของรากสามสิบไว้ว่า "ผักหวานตัวผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้จักขุโรค รากสามสิบอีกทั้ง 2 มีคุณยิ่งกว่าผักหวาน" กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 ประเภท สิ่งแรก คือ ตัวร้อน เบื่อข้าว ปวดศีรษะ แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง คือ มีลักษณะอาการร้ายแรงมากยิ่งกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีลักษณะอาการคัน ไอ มีเสลด และมีเลือดออกทางปากและก็จมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ "พระตำราเวชศาสตร์เกื้อหนุน" ได้พูดถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อนยาน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆอีกหลายแบบ โดยระบุว่ามีคุณประโยชน์ (ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยจำเริญชีวิตให้กำเนิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้เจริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังมากแตกต่างกัน กินเข้าไปแล้วหาโทษมิได้ ใช้ได้อีกทั้งเด็ก คนสูงอายุ คนมีกำลัง คนผอมบาง คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อนยาน ให้ประกอบยานี้กันเหอะ อนึ่ง รับประทานแล้วให้บังเกิดลูก ให้อกตอแค่นดวงจันทร์งทั้งยัง 4 มีกำลัง ถึงกระหักก็ดี หมอก็นับถือรักษาด้วยยานี้เถิด (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคซูบผอม แก้โรคหอบหืด แก้ปิดตะ และแก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ร่วมกัน 20 อย่างและก็รากสามสิบ (ราก)
ใน "พระคัมภีร์วรโยคสาร" ตำรับยา "วะระที่นาทิภาควิชา" เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง และรากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีอาการทิ่มแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสมหะ แก้ปะทุลุมโรคหายแล และก็ยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสลด ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง แล้วก็รากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงท้อง แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 ชนิด เป็นต้นว่า รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียน 5 บัวน้ำทั้งยัง 5 โกฐ 5 จันทน์ 4 แล้วก็เทวดาทาโร (ใช้อย่างละเท่ากัน) นำทั้งสิ้นมาใส่ไว้ภายในหม้อฉาบหรือหม้อดิน เพิ่มน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 เซนติเมตร แช่ทิ้งไว้ราวๆ 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มเคี่ยวประมาณ 30 นาที น้ำยาเดือดและมีกลิ่นหอมสดชื่นจึงชูลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนอาหารยามเช้ารวมทั้งเย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงท้องอย่างยอดเยี่ยม (ราก)
นอกเหนือจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ของรากสามสิบตามเว็บต่างๆนอกจากที่กล่าวมา สมุนไพรประเภทนี้ยังมีสรรพคุณช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง แก้วัยทองคำ เพิ่มขนาดทรวงอกและก็สะโพก ช่วยจัดการกับปัญหาช่องคลอดอักเสบ กำจัดกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปร่าง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่ชรา ลดกลิ่นเต่า กลิ่นปาก ช่วยเสริมสร้างรวมทั้งปรับปรุงความจำแล้วก็สติปัญญา (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดแล้วก็วิธีการใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากประมาณ 90-100 กรัม เอามาต้มกับน้ำวันละครั้งในเช้าตรู่
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่เจอ ดังเช่น asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต่อต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้ลักษณะของการปวด คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ คุ้มครองปกป้องกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นมาจากความดันเลือดสูง ขับนม มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิต้านทาน ต้านทานอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์ของมะเร็ง ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่พบในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติภารกิจเอาอย่างฮอร์โมนเพศ จึงคงจะมีหน้าที่สำหรับในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในตอนวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือดรวมทั้งโรคกระดูกพรุน
จากการเรียน
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ช่วงเป็นตอนกระทันหันและช่วงยาวต่อเนื่อง โดยการศึกษาในตอนรุนแรงป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อกก. ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นเบาหวาน หนูแรทที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ว่าช่วยทำให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของกลูโคส ในนาทีที่ 30 ดีขึ้น ส่วนการเรียนตอนยาวตลอดวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และเพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน แล้วก็เพิ่มไกลโคเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปโรคเบาหวานควบคุม ก็เลยสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการขัดขวางการสรุปยรวมทั้งการดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต แล้วก็เพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งคงจะมีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการเอาไปใช้รักษาคนเจ็บโรคเบาหวานได้9
จากการทดสอบทางคลินิกเป็นการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการกินผงแห้งของราก พบว่าได้ผลดีสำหรับการรักษาแผลที่กระเพาะรวมทั้งลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี ค.ศ.1997 ที่ประเทศอินได้กระทำตรวจสอบและลองใช้รากสามสิบกับคนป่วยความดันเลือดสูงจำพวก mild hypertension โดยทดลองเปรียบเทียบกับยาลดความดัน (Propranolol) ใช้ระยะเวลากระทำการทดสอบนาน 3 เดือน ผลการทดสอบพบว่า คนป่วยมีความดันโลหิตลดลง < 90 mm.Hg. แล้วก็ลดไขมันได้ผลดี

• K. Mitra และก็ภาควิชา (ค.ศ.1996) ที่ประเทศอินเดียได้ทำการตรวจสอบและลองใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/