สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ตัวช่วยเพื่อช่วยการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 281 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำที่อยู่อาศัยเลยก็ว่าได้ เพราะใช้ง่าย คล่องแคล่ว อีกทั้งช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านทำให้เกือบจะทุกๆที่พักอาศัยจำเป็นจะต้องมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ในบ้าน แต่ว่าการที่จะซื้อเครื่องดูดฝุ่นสำหรับที่จะเอามาใช้งานซักเครื่องต้องมีปัจจัยหลายเรื่องมาเกี่ยวข้องในการซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องประกอบด้วยวิธีการสำหรับตัดสินใจซื้อบวกกับมียี่ห้อใดแนะนำกันบ้าง
            อย่างแรกคือ แบบของที่ดูดฝุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากชนิดของที่ดูดฝุ่นที่แตกต่างกันก็เหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างไป เครื่องดูดฝุ่นมีอยู่ 4 แบบ
1.) ที่ดูดฝุ่นชนิดแห้ง เหมาะกับการใช้งานในห้องทั่วๆ ไป แต่ว่าไม่เหมาะกับบนพื้นพรม ด้วยความที่แรงในการดูดฝุ่นไม่พอ
2.)  ที่ดูดฝุ่นไร้สาย มุ่งเน้นความสะดวกสบายสำหรับทำงาน เพราะว่าสามารถชาร์จพลังงานก่อนเอาไปใช้ รวมถึงน้ำหนักเบาใช้งานสะดวกสบาย เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีที่เก็บฝุ่น สะดวกสบายในการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำให้สะอาดโดยอัตโนมัติได้โดยการวางรายการ และยังทำให้เข้าไปในบริเวณที่ตั้งใจทำความสะอาดได้ง่ายมาก พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจสิ่งกีดขวางพร้อมด้วยยางป้องกันชน
            เรื่องที่สอง เนื้อที่สำหรับใช้ เป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องนำมาไตร่ตรองเพราะว่าจะคือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อขนาดของที่ดูดฝุ่น รวมไปถึงที่พักอาศัยของเรามีมุมอับหรือเปล่า หากว่าซื้อที่ดูดฝุ่นความจุเล็กเกินพอดีจะทำให้ที่ดูดฝุ่นทำงานมากไป เก็บกวาดได้ไม่ดี และกระตุ้นพังไวกว่าเดิม
ประเด็นถัดมา เรื่องของฟังก์ชั่น รวมถึงทักษะในการเก็บกวาดของที่ดูดฝุ่น เรื่องนี้จำเป็นต้องคิดเริ่มตั้งแต่แรงไฟ โดยจำเป็นต้องควรเลือกให้เหมาะแก่การทำงานเพราะว่าถ้ากำลังไฟน้อยก็มีผลกระทบต่อแรงสำหรับดูดฝุ่น ต่อมาคือพวกโครงสร้างทั้งหลาย ในแต่ละยี่ห้อหรือทุกรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ทำให้กดฝุ่นละอองให้เป็นก้อนเพื่อให้ไม่ยากแก่การเก็บกวาด หรือไม่ก็มีระบบการสกัดหลายชั้นเพื่อที่จะไม่ให้ฝุ่นออกนอกตัวเครื่อง ฯลฯ เราจึงต้องพิจารณาว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบใดที่ตรงใจเรามากที่สุด
            สุดท้ายก็เป็น ประเด็นเกี่ยวกับคุณลักษณะ มูลค่า รวมถึงอายุการใช้งาน ถือเป็นประเด็นที่จำเป็นต้องพิจารณาว่าประสิทธิภาพกับราคาเป็นไปในทางเดียวกันหรือเปล่าและคุ้มค่าที่ควรเลือกไปใช้หรือเปล่าก็เพราะว่าสิ่งที่จะตามมาคืออายุการใช้งานถ้าตัดสินใจของที่ไม่ตรงกับการใช้งานไปจะทำให้อายุการใช้งานน้อยลงรวมถึงนับว่าเป็นการสิ้นเปลือง
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าซื้อที่จะนำมาเสนอแนะ ได้แก่

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นรูปแบบกล่อง รุ่น CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยคุณขจัดไรฝุ่นได้การรับรองคุณภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ แห่งประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องใส่ฝุ่นไซโคลน ขนาดความจุ 1.6 ลิตร บีบบีบฝุ่นเป็นก้อนทำให้สะดวกกับการทิ้ง ไม่ฟุ้ง เพราะว่าระบบกรองฝุ่น 7 กระบวนการ พร้อมด้วยแผ่นกรองเฮป้า รวมถึงนาโน ไททาเนียม ดักกลิ่น ตัดการใช้งานโดยทันทีหากเครื่องอุณภูมิสูง ราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับโหมดแล้วแต่สภาพการณ์แวดล้อม พลังงาน LI-ION ทำให้ปฏิบัติงานติดต่อกันมากถึง 120 นาที ระบบเก็บกวาด 3 กระบวนการ ที่มีการถูเก็บฝุ่นประเภทแห้ง หุ่นยนต์ช่วยตรวจบริเวณที่ไม่สะอาดมากเพื่อเก็บกวาดเป็นพิเศษ และยังมีโหมดตรวจจับพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อจะทำความสะอาดได้อย่างถูกทาง มูลค่า 21,990 บาท
  • DYSON ที่ดูดฝุ่นชนิดด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไม่มีสาย มาพร้อมกับการใช้งาน ครอบคลุมทุกอย่าง มีความมั่นคงทนทาน ใช้งานไม่ยาก โดยใช้ระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่สามารถเพิ่มให้การไหลกลับมาของอากาศรวมทั้งดักจับฝุ่นละอองละอองเล็ก หัวเก็บกวาดแบบ Direct-drive เก็บกวาดตรงเข้าไปกับพรมสำหรับขจัดรอยเปรอะเปื้อนบนพื้น ส่วน หัวเก็บกวาดแบบลูกกลิ้งนุ่มออกแบบมาที่เหมาะกับพื้นแข็ง แล้วยังพร้อมกับระบบกรองรูปแบบแกะออกมาชำระล้างได้ด้วย ในราคา 28,900 บาท


จะเห็นได้ว่า แบรนด์ทุกยี่ห้อมุ่งมั่นปรับปรุงพร้อมกับใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่ไปเพื่อความง่ายกับผู้ใช้ ดังนั้นแล้ว การเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะกับการทำงานก็เลยไม่ได้เป็นส่วนยากเสมอไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี