ถ้ากล่าวถึงหูฟังที่โด่งดังในเรื่องออกแบบที่สวยงามพร้อมทั้งเสียงที่เป็นคุณสมบัติเฉพาะนั้น หลายคนอาจต้องนึกถึงหูฟัง Beat แน่ๆ เพราะไม่เพียงเป็น Gadget ชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่ยังถูกใช้เป็นเทรนด์ฮิตที่ชินตาของคนสมัยใหม่เช่นกัน เป็นเหตุให้เป็นหูฟังอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในด้านสมัยนิยมอีกทั้งยอดขาย
 
 เมื่อก่อนที่จะเป็นหูฟังที่พวกเรารู้จักกัน Beat ก็มีจุดกำเนิดที่น่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง พวกเรามาดูถึงเรื่องราวของแบรนด์นี้กันดีกว่า
 
 Beat Electronics LLC (หรือว่าอีกชื่อหนึ่งก็คือ Beat by Dr. Dre) เป็นบริษัทผลิตเครื่องมือด้านเสียง และวัสดุอุปกรณ์เสริมหลายอย่าง มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย อเมริกา จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 โดย Dr.Dreแร๊พเปอร์, โปรดิวเซอร์ โด่งดัง และ Jimmy Iovine อดีตประธานบริษัท  Interscope Geffen A&M Records ซึ่งในขณะนั้นอุตสาหกรรมดนตรีกำลังพบอุปสรรค การฝ่าฝืนลิขสิทธิ์ และ คุณภาพเสียงของหูฟังที่ขับศักยภาพในตัวบทเพลงออกมาได้อย่างไม่เต็มแรง
 
 ซึ่งทั้ง 2 มองว่าจะต้องประดิษฐ์หูฟังที่ทรงพลังขึ้นมา เริ่มแรกของการพัฒนาก็ได้สอบถามข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องเสียงที่พอดีจากศิลปินหลายท่านไม่ว่าจะเป็น M.I.A., Pharrell Williams, will.i.am, และ Gwen Stefani เมื่อเรียบเรียงได้ข้อมูลที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงมาได้ช่วงหนึ่งจึงได้ร่วมกับ  Monster Cable ผู้สร้างอุปกรณ์สำหรับภาพและวีดีโอจนได้เป็นสินค้าของ Beat ออกมาเป็นชิ้นแรกๆในชื่อ Beat by Dr. Dre Studio headphones ในปี 2008
 แต่หูฟังของ Beat ในรุ่นแรกกลับไม่ได้รับการยอมรับที่ดีนัก เพราะด้วยมูลค่าที่สูงระดับ $350 (10,500 บาท) แต่ข่าวดีก็คือ Apple ตกลงใจให้สามารถนำหูฟัง Beat เข้ามาจำหน่ายใน Apple Store ได้ เป็นสิ่งที่รับประกันว่าถึงหูฟัง Beat ราคาแพงแต่ก็เป็นที่ดึงดูด
 
ต่อมาในปี 2009 ได้มีการแก้เกมโปรโมตด้วยการ Tie-In ผลิตภัณฑ์ใน MV ของนักร้องสไตล์ Pop และ Hiphop รวมไปถึงร่วมกับศิลปินหลายท่านในการออกผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษ การโปรโมตร่วมกับคนดังนั้นทำเอาทาง Beat เจาะแก๊งท้องตลาดวัยรุ่นได้เป็นผลสำเร็จ
 
 หลังจากนั้นในปี 2010 ผู้ผลิตsmartphone HTC ได้เข้ามาซื้อหุ้น 50.1% ของ Beat เป็นราคา $309 ล้าน การเข้าซื้อครั้งนี้ เป็นเหตุให้ HTC เป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่สามารถใช้ระบบเสียง Beat บนมือถือของตัวเองได้ ส่วนทาง Beat เองนั้นยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างเสรีโดยที่ HTC ไม่เข้าไปกำกับ
 
 ความเด่นดังของ Beat ยังคงมากขึ้นอย่างสืบเนื่อง Jimmy Iovine ซึ่งเขาได้เป็นหนึ่งในโค้ชรายการ American Idol ตั้งแต่ปี 2011-2013 ซึ่งนอกจากจะทำให้ชื่อเสียงของเขาแพร่หลายขึ้นมาแล้ว อีกทั้งรวมถึงหูฟัง Beat ที่เขาแอบ Tie-in สื่อโฆษณาในรายการอยู่เสมอๆ ซึ่งนั่นคือยุคสมัยที่ American Idol กำลังดังถึงขีดสุดพอดี
 
 ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2014 ทาง Apple ได้ทำการสนทนาเข้าซื้อ Beat ด้วยราคา 3  พันล้านดอลล่าห์ กระทั่งได้เป็นบริษัทลูกของ Apple Inc. โดยสมบูรณ์แบบตั้งแต่ในเวลานั้น
 
 ปัจจุบันนี้ Beat มีหูฟังวางจัดจำหน่ายทั้งประเภท Full size, และ In ear ซึ่งมีรุ่นที่อยากแนะนำดังต่อไปนี้
 
Beats Studio3 Wireless มูลค่า 12,500 บาท
                เป็นหูฟังมาตรฐานสุดฮิต รุ่นนี้เป็นประเภทไร้สายล่าสุดมาพร้อมกับชิพ Apple W1 เพื่อการเชื่อมต่อ Class 1 Wireless Bluetooth (รูปแบบเดียวกับ AirPods) และเมื่อฟังไปเรื่อยๆ กระทั่งแบตจวนหมด ก็มีฟังค์ชั่น Fast Fuel จะทำให้การชาร์จแค่ 5 นาที สามารถฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง
 
 BeatsX สนนราคา 5,900 บาท
                เป็นหูฟังที่เหมาะสมกับ iPhone เนื่องมาจากคุณสมบัติยังกะ AirPods แทบทุกอย่าง ใช้งานในประจำวัน สามารถพกติดตัวได้ง่ายๆ และมีไมค์พูดคุยที่ดีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เป็นเวลายาวนานมากสุด 8 ชั่วโมง พร้อมทั้งคุณลักษณะ Fast Fuel ทำให้การชาร์จเพียงแค่ 5 นาที สามารถฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง จุกหูฟังที่มีให้เลือกนานัปการ
 
 Beats EP มูลค่า 4,400 บาท
                มาที่รุ่นประหยัดงบประมาณไปอีก ด้วยการควบคุมแบบมีสายและมิจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ คุณภาพเสียงที่ปรับแต่งมาให้มีความแจ่มใสและมีมิติตามหลัก Beats ออกแบบที่คงทนอีกทั้งน้ำหนักเบาเพราะว่าใช้วัสดุสแตนเลสสตีล ตัวแถบเลื่อนแนวตั้งแบบปรับได้เพื่อให้ความพอดีในการใส่ รองรับการรับสายพร้อมด้วยควบคุมเพลงบนอุปกรณ์ iOS ผ่านทาง RemoteTalk
 
 และนี่คือประวัติและรุ่นหูฟังที่น่าดึงดูดของ Beats ถ้าหากใครต้องการเป็นเจ้าของสุดยอดหูฟังแบรนด์นี้ก็สามารถไปทดลองใช้งานกันได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่ายนะฮะ

Tags : หูฟัง Beat,หูฟัง beat ราคา,หูฟัง beat ไร้สาย