สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 205 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2019, 10:53:20 AM »
ย้อนกลับไปในศก 2001 มือถือได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าด้วยเหตุที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ดังเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก เมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลให้มีลูกค้าโทรศัพท์มือถือไม่มากนักเมื่อเทียบเคียงกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แต่ทว่ากาลเวลาก็แปรเปลี่ยนพร้อมด้วยความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงทุกวันนี้ มือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกขายไปรวมทั้งสิ้นโดยประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ประมาณ 5% โดย 3 อันดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% เราไปเจาะลึกสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติผลกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจวบจนถึงธันวาคมโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูท่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยเพียง 3 เดือน ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำรายรับราวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งถึงแม้ว่าเงินรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งกำเนิดของผลกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่พ.ศ.นี้ย้ายมาจำหน่ายไวขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่จำหน่ายในหลายๆ บ้านเมือง และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยเงินรายได้รวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่ม 13% จากคราวเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนรายรับจากต่างประเทศนอกสหรัฐฯคิดเป็น 65% ของรายรับรวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จัดจำหน่าย iPhone X โดยคาดหมายกันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำกำไร แม้นจะมีข่าวแต้มสีออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลแจ้งให้ทราบตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบครั้นเมื่อพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นดอกผลสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศก 2017 หัวเว่ยได้มอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี ถึงกระนั้นทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ เพราะว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ด้านตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเชียว ก็เพราะว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ว่ายอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็เอาจริงเอาจังไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ เช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายบ้านเมืองมี 4G และปี2018 คาดเดาว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดสอบประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของข่ายงานไร้สาย 5G ทำให้มีความคาดหมายกันว่า มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกโดยจำเป็นจะต้องรอคอยจับตาดูว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนกลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและต่อสู้ความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่