สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านหมดจดไม่ยาก ด้วยที่ฟอกสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 430 อ่าน
            สมัยนี้อากาศที่คุณหายใจเข้าไปเกือบจะเป็นอากาศประกอบด้วยแค่ฝุ่นละอองและสารพิษที่ปะปนเข้าในนั้นคงจะส่งผลให้ไม่สบายง่าย และสูดไม่ง่ายได้ ฉะนั้นแล้วการที่ไปอยู่ในมลพิษสารพิษคุณก็เลยหลบไม่ได้ที่จำเป็นต้องหายใจสภาพอากาศเอาพวกนั้นเข้าไปภายในร่าง
            แต่ว่าพอคุณกลับมาบ้านคุณอาจจะมองว่าสภาพอากาศด้านในที่อาศัยสะอาดมากกว่าด้านนอกก็จริงอยู่แต่ว่าและยังมีฝุ่นละอองมาจากข้าวของเครื่องใช้ในบ้านที่บางทีคุณอาจจะเห็นว่าก็ซักล้างอยู่บ่อยๆ หรือที่ติดมาพร้อมกับเครื่องแต่งตัวเราที่ออกไปด้านนอกมาตลอดทั้งวัน สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณแทบจะต้องอยู่กับมลพิษตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วคุณเลยต้องมีตัวช่วยที่มีชื่อว่า ที่กรองอากาศ เอาไว้ภายในบ้านเพื่อจะช่วยให้ที่พักใสสะอาดพร้อมด้วยเราได้สภาพอากาศสะอาดบ้างสำหรับทุกวัน
            โดยที่ฟอกอากาศที่ใช้ภายในบ้านประกอบด้วย 4 ลักษณะด้วยกันเช่น 1. ที่กรองสภาพอากาศประเภทใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่โดยทั่วไปแล้วคาร์บอนมีสรรพคุณในการดูดสิ่งสกปรกพร้อมกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วก็เลยมีการนำมาทำเป็นไส้กรองสภาพอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนเพื่อใช้ในกรรมวิธีสกัดสภาพอากาศ 2. ที่ฟอกอากาศรูปแบบใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ที่กรองอากาศรูปแบบนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้งานในการล่อผงต่างๆ ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าช่วยดักฝุ่นผงดีถึงแม้จะมีผงเล็กมากก็แล้วแต่ ไม่เว้นแต่ละอองทั่วๆ ไป ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันไฟบุหรี่ ช่วยให้เครื่องกรองอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือไม่ก็เป็นภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศรูปแบบสมรรถนะสำหรับกรองมาก (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA เป็นเครื่องกรองอากาศประกอบด้วยสมรรถนะในการสกัดสภาพอากาศสูงมากเนื่องจากส่วนที่กรองผลิตเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดสภาพอากาศให้บริสุทธิ์ได้ถึง 99% แต่ว่าข้อเสียก็คือไม่สามารถดูดซึมควันหรือซับกลิ่นได้ ถือเป็นเครื่องฟอกสภาพอากาศที่มักใช้ในโรงพยาบาลหรือว่าโรงงานบางประเภท โดยที่ไส้กรองอายุการใช้งานยาวนานถึง 4 ปี  4. เครื่องฟอกสภาพอากาศลักษณะผสม เป็นเครื่องกรองสภาพอากาศที่แบบผสมผสาน 2 หน่วยเข้าด้วยกันอาจคือรวมใน Carbon เข้ากับ Ionic หรือ HEPA กับ Ionic ก็ได้แล้วแต่ว่าผู้ผลิตต้องการให้ที่ฟอกอากาศใช้งานออกด้วยรูปแบบใด
            โดยประเภทเครื่องกรองอากาศรวมทั้งหมดที่พูดถึงเป็นไปได้ว่าที่มีหลายคนข้องใจว่าแล้วจะประกอบด้วยแนวทางการคัดเลือกที่กรองอากาศเช่นใดเพื่อที่จะเหมาะสำหรับตัวเองที่สุด อย่างแรกควรจะรู้จักสภาพอากาศข้างในที่พักตัวเองก่อนว่ารูปแบบสภาพอากาศรอบๆ บ้านเป็นอย่างไร ที่มีผงเยอะหรือไม่ หรือมีกลิ่นไม่ดีหรือไม่ก็เลยค่อยเลือกซื้อที่ฟอกอากาศถัดมาที่การคัดตัวที่กรองอากาศโดยที่ตัวที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 หน่วยภายในเครื่องเดียวคือ  กรองฝุ่น ดักฝุ่นละออง พร้อมด้วยซึมซับกลิ่นข้างในเพียงอันเดียว รวมไปถึงมีพลังที่ช่วยสูบอากาศโดยรอบ เพื่อที่จะนำไปกรองพร้อมด้วยปลดปล่อยอากาศสะอาดออกมา เช็คดูก่อนว่าระบบสกัดอากาศตลอดจนแผ่นกรองเป็นแบบที่คุณตั้งใจหรือเปล่าพร้อมด้วยสามารถนำไปทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่รวมไปถึงพวกราคาแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะตอนที่ที่กรองหมดเขตจะสามารถเลือกซื้อได้ง่าย ท้ายที่สุดก็เป็นการพิจารณาค่าที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ตัวเลขนี้เป็นค่าเอาไว้ตรวจวัดประสิทธิภาพสำหรับใช้งานของที่กรองสภาพอากาศโดยที่ค่านี้ก็จะสูงขึ้นสมมติว่ามีผู้ใช้งานอยู่ที่ห้อง
            ในส่วนสำหรับการทำงานตลอดจนการดูแลรักษาก็คือ การใช้งานของเครื่องกรองสภาพอากาศควรที่จะปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องใช้งานทิ้งไว้ก่อนที่จะเข้าภายในห้องเพื่อที่จะสภาพอากาศสะอาดสะอ้านก่อน เรื่องการเอาใจใส่ล้างเป็นน่าจะชะล้างที่กรองขั้นต่ำเกือบทุก  3 เดือน  ด้วยการเอามาชะล้างแล้วตากให้หายชื้น  เพื่อที่จะทำลายเชื้อไวรัส  หรือเก็บกวาดตามที่คู่มือบอกไว้ แต่ว่าสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่อยากทำความสะอาดสม่ำเสมอ ก็ควรจะเลือกใช้แบบประจุไฟฟ้า เนื่องจากถึงแม้จะสนนราคาสูงกว่าประเภทอื่นๆแต่ไม่ได้ไม่ต้องเก็บกวาดประจำและยังดูแลรักษาไม่ยาก
จะเห็นได้ว่าที่กรองอากาศประกอบด้วยหลายอย่างอีกทั้งวิธีการสำหรับเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งานก็ไม่ยากแบบที่คิดยิ่งไปกว่านั้นการดูแลรักษาความสะอาดก็ง่ายดายอีกเช่นกัน โดยที่ที่ฟอกอากาศมีมาให้ตัดสินใจซื้อกันมากมายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่มูลค่า 2-3พันบาทรวมถึง 4-5 หมื่นเลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ราคา

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี