https://www.wongnai.com/articles/best-acne-treatments-and-products

เจาะลึกวิธีรักษาสิว กับ 3 ไอเท็มที่ใครๆก็แชร์ว่าดี พาไปรู้จัก 3 ไอเท็มสุดฮิตในการรักษาสิวแบบไม่มีผลใกล้กัน ลดความวิตกกังวลว่าจะมีอาการแพ้ ผิวแห้ง ผิวแดงหรือผิวลอก ซึ่งเป็นอาการค้างเคียงจากการดูแลรักษาสิวที่หลายท่านกังวลใจรักษาสิว




 สิ่งที่คนเป็นสิวอยากได้สูงที่สุดก็คือครีมหรือยาที่ช่วยรักษาสิวให้ยุบเร็ว เพราะว่ายิ่งรักษาสิวได้เร็วจะก่อให้กลับมามั่นใจได้เร็วขึ้น แต่แน่นอนว่าการรักษาสิวแบบเร็วๆบางครั้งก็อาจจะมากับผลข้างเคียงที่อาจทำให้สิวเห่อ หน้าลอกได้ วันนี้เราจะมาดูว่าครีมรักษาสิวตัวไหนที่ได้ผลยังไงแล้วก็มีผลใกล้กันแบบไหนกันจ้ะ พวกเราจะไปเจาะลึกไอเท็มรักษาสิว 3 ตัวตามที่คนอีกหลายๆคนคงจะเคยได้เห็นจากโซเชียล แม้กระนั้นยังไม่รู้จักว่ามันดีจริงไหม จะใช้ครีมรักษาสิว 3 ตัวนี้ให้ถูกแนวทางได้เช่นไร เมื่ออ่านจบแล้วจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าครีมรักษาสิวตัวไหนกันแน่ที่ช่วยรักษาสิวให้หายได้แบบไม่ต้องมาคอยกลุ้มใจว่าจะเกิดอาการผิวแพ้ ผิวแห้ง แดง หรือลอกแล้วก็ผลกระทบอื่นๆถ้าหากพร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดของครีมรักษาสิวอีกทั้ง 3 ตัวกันเลยดีกว่าค่ะ 1. เรตินเอ 0.025% & 0.05% Retin-A เป็นยารักษาสิวที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเคยชินกันดีจากโลกโซเชียล รูปแบบของยารักษาสิว Retin-A มีให้เลือกหลายแบบ ซึ่ง Retin-A มีทั้งๆที่เป็นเนื้อครีมและเนื้อเจล และก็ยังมีความเข้มข้นที่หลากหลายวิธีรักษาสิว




 สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพผิว และก็ระดับความร้ายแรงของปัญหาสิวของพวกเราได้จ้ะ Cream: 0.025%, 0.05%, 0.1% Gel: 0.01%, 0.025% เค้าพูดว่า Retin-A เนี่ย ข้อดีของนั่นก็คือถ้าเกิดพวกเราทาเฉพาะจุด มันจะช่วยทำให้สิวดียิ่งขึ้นได้เร็วกว่าตัวอื่นๆจ้ะ แต่ว่าในส่วนข้อควรระวังของมันก็บางทีก็อาจจะเยอะแยะหน่อย เมื่อทา Retin-A แล้วอาจจะรู้สึกระคายรวมทั้งแสบได้ จึงเหมาะกับทาเพื่อรักษาสิวเฉพาะจุดมากยิ่งกว่า ยิ่งถ้าเป็นคนหน้าแห้งยิ่งไม่ควรทาทั่วหน้าค่ะ บางบุคคลหน้าใช้แล้วหน้าลอกไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องกันนาน มันไวต่อแสงค่ะ บางบุคคลอาจเคยได้รับข้อแนะนำจากคุณหมอมาว่าไม่ให้ทาตัวนี้กลางวัน หรือถ้าเกิดทาก็ต้องตามด้วยโลชั่นป้องกันแสงแดดเสมอ ห้ามใช้ร่วมกับยา BP ครีมที่มีฤทธิ์ลอกหน้าหรือผลัดเซลล์ผิวอย่างเช่นพวก AHA ช่วงที่ใช้ Retin-A จำเป็นต้องงดใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ โดยยิ่งไปกว่านั้นโทนเนอร์ทั้งหลายแหล่ ที่ไหนที่ผิวอักเสบอยู่ ดังเช่นว่า เป็นหัวสิวบวมแดง ห้ามทา Ratin-A เนื่องจาก




จะยิ่งทำให้รอบๆนั้นระคายเคืองมากยิ่งขึ้น ให้ทาด้วยยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่จะดีมากกว่า ข้อเสนอการใช้: ควรใช้เฉพาะตอนเวลากลางคืน หลังล้างหน้าและก็ซับหน้าจนกระทั่งแห้งสนิทแล้ว เพราะหากหน้ายังชื้นๆอยู่เวลาทายาไปอาจจะส่งผลให้ระคายเยอะขึ้นได้ บีบ Retin-A ออกจากหลอดสักขนาดเม็ดถั่วเขียว แต้มเฉพาะจุด ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆจนถึงยาซึม ไม่มีคราบขาวๆเหลืออยู่ ถ้าหากยังไม่เคยใช้ยามาก่อน ให้ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำ แม้กระนั้นถ้าหากใช้จนถึงผิวปรับสภาพได้แล้วก็ทาทิ้งไว้ได้เลย 2. เบนแซค เอซี 5% ยารักษาสิวตัวลำดับที่สองคือ Benzac AC ที่มีตัวยา Adapalene ที่คนจำนวนไม่น้อยกล่าวว่ามันได้ผ่านการคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้จุดบกพร่องของ Retin-A ค่ะ มีหลายแบบให้เลือกตามสภาพผิวหน้าของเราเช่นเดียวกัน Gel: 2.5%, 5%, 10% ยารักษาสิว Benzac AC มีความเข้มข้น 2.5% รวมทั้งความเข้มข้น 5% ต่างชาติมีความเข้มข้นถึง 10% ซึ่งความเข้มข้นที่ว่าเป็นความเข้มข้นของ Benzoyl Peroxide ที่มีฤทธิ์ช่วยให้หัวสิวหลุดออกจากตุ่มสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว ทำให้เชื้อไม่ไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตายรวมทั้งไขมัน ทำให้รักษาและก็ป้องกันไม่ให้มีสิวหนองได้ ความสามารถสำหรับในการรักษาสิวของมันเจ๋งมากๆแม้กระนั้นเรื่องอย่างงี้จำต้องใช้เวลาแล้วก็ใช้ความยับยั้งใจและก็มือ ไม่งัด งัดแงะ แกะ เกา ด้วยนะคะ มันมีความเคืองต่ำ ทนต่อแสง ไม่มี Phototoxicity ไม่แรงมาก ใช้รักษาสิวได้เรื่อยๆแม้กระนั้นระหว่างที่ใช้ก็ไม่ควรบีบสิวนะคะ บางคนใช้แล้วผิวใสขึ้น เนื่องจาก Benzoyl Peroxide มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการผลัดเซลล์ผิวด้วย แต่ก็ควรจะระวังเนื่องจากว่าบางคนใช้แล้วอาจจะทำให้ผิวแห้งหรือลอกค่ะ ยารักษาสิวชนิดนี้ส่งผลลัพธ์สำหรับในการใช้ขึ้นอยู่กับหลายเหตุรวมทั้งสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ เพราะเคยได้เห็นบางบุคคลรีวิวว่าใช้แล้วมีสิวอักเสบเพิ่มขึ้น ไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่อง แล้วก็อย่าทิ้งเอาไว้นานเกินความจำเป็นเด็ดขาดเพราะว่าจะทำให้แสบหน้าแล้วก็ระคายเคืองได้ สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายต้องระวังนิดหนึ่ง ไม่สมควรใช้แบบ 5% และทิ้งเอาไว้นานด้วยเหตุว่าบางทีอาจแสบหน้าและทำให้หน้าแห้งได้จ้ะ เสนอแนะให้ใช้แบบ 2.5% จะระคายน้อยกว่า แล้วก็ทาทิ้งเอาไว้ไม่เกิน 15 นาทีนะคะ ข้อเสนอการใช้: ควรจะใช้ยารักษาสิวอย่างนี้โดยเริ่มจากน้อยไปๆมาๆก ทั้งยังในเรื่องของความเข้มข้น ปริมาณการใช้ และก็ในขณะที่ใช้ ให้หลบหลีกการทารอบๆดวงตา มุมจมูก รอบริมฝีปาก และผิวหนังบริเวณที่สุภาพ ถ้าใครกันแน่กลัวใช้ยารักษาสิว Benzac Ac แล้วแพ้ กลัวแสบ เสนอแนะให้ทาทิ้งเอาไว้ราวๆ 5-10 นาที แล้วล้างออก ถ้าไม่แพ้ ไม่แสบ ครั้งต่อไปค่อยเพิ่มเวลา จำนวน และก็ความเข้มข้นค่ะ 3. Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment เนื้อครีมคล้ายเนื้อเจล สีขาวครีมอย่างนี้ เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เจลรักษาสิวตัวนี้จะไม่เหมือนกันกับ 2 ตัวข้างบนค่ะ เนื่องจากว่ามันเป็นเจลบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้นที่เกิดขึ้นมาเพื่อรักษาสิว สิวตันโดยเฉพาะเลย ซึ่งหากเปรียบเทียบกับยารักษาสิวแล้ว Eucerin อาจราคาแพงกว่าหน่อย แต่ว่าก็คุ้มกว่าในเรื่องการเสี่ยงเนื่องจากว่ามันไม่ใช่ยาแต่เป็นสกินแคร์ ทาได้ทั่วทุกคนค่ะ ที่สำคัญเป็นเรามั่นอกมั่นใจได้เลยว่าใช้แล้วจะไม่เป็นอันตราย ไม่มีอาการแพ้ ไม่มีอาการใกล้กันอย่างหน้าแห้งจนกระทั่งลอก หรือสิวขึ้นมาเพิ่มจ้ะ เป็นช่องทางที่ดีในการรักษาสิว ทางแบรนด์เคลมว่ามี Hydroxy Acid 10% เป็นการผสมของสารในกรุ๊ปที่เข้าละลายหัวสิว ซึ่งใส่มาเข้มข้นถึง 10% ตัวนี้โดดเด่น แตกต่างจากสรับประทานสนใจสำหรับลดสิวตัวอื่นๆที่อาจใส่สารกลุ่มนี้เพียง 1-2% เพียงแค่นั้น ทำให้ทรีตเมนต์ตัวนี้จะช่วยสลายสิวอุดตัน และก็หัวสิวได้ใน 7 วัน ช่วยลดความมันในร่องรูขุมขน มีนวัตกรรม A.I. หรือที่ย่อมาจาก Anti-inflammatory จึงช่วยลดการอักเสบของผิว ในเวลาที่กระทำรักษา ช่วยคุ้มครองการแสบ แดง ลอกของผิว ใช้แล้วไม่มีอาการแสบ แดง หรือผิวลอก ช่วยลดปัญหาผิวแห้งลอกจากการรักษาสิว ผ่านการยืนยันทางด้านการแพทย์ว่าไม่ทำให้แพ้ ไม่อุดตัน ไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดสิว และไม่มีพาราเบน คำแนะนำการใช้: ทาเจลรักษาสิวให้ทั่วใบหน้าหลังล้างหน้าแล้วก็ซึมซับหน้าจนถึงแห้งแล้ว เลี่ยงรอบดวงตา มุมจมูก รอบริมฝีปาก และผิวหนังบริเวณที่อ่อนโยน เก็บผลิตภัณฑ์เอาไว้ในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาค่ะ สรุปไอเท็มรักษาสิวทั้ง 3 แบบ Retin-A, Benzac, Eucerin Pro Acne (เรียงจากบนมาด้านล่าง) Retin-A, Benzac, Eucerin Pro Acne คืออะไรกันบ้างคะสำหรับเนื้อหาแบบเจาะลึกของ 3 ไอเท็มสำหรับเพื่อการรักษาสิว แต่ละตัวก็มีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปเนอะ และส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกใช้ยารักษาสิวเป็นการเลือกให้หมาะกับสภาพผิวของพวกเรา เลือกอันที่มีส่วนผสมสุภาพ ช่วยลดสิวได้แบบไม่รังแกผิว และไม่ส่งผลข้างเคียง ดังเช่นว่า ทำให้หน้าระคายเคือง แห้ง แดง หรือลอกจ้ะ สุดท้ายถ้าหากเลือกแบบที่ประทับใจได้แล้ว อย่าลืมใช้ยารักษาสิวให้ถูกแนวทางเพื่อให้สิวหายอย่างปลอดภัยกันนะคะ