สวัสดี บุคคลทั่วไป

เพ่งดูความสำเร็จจากยี่ห้อผู้อยู่เหนือเทคโนโลยีที่สมัญญา Asus

  • 0 ตอบ
  • 375 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีในสมัยนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อที่ค่อยๆ ชนะใจผู้ใช้ จนกระทั่งขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้สำเร็จโดยเป็นทั้งผู้ประดิษฐ์ และผู้จำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ไปกระทั่งถึงมือถือ, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นจุดตั้งต้นชัยชนะของบริษัทจากไต้หวันแห่งนี้ มาเกาะติดกันได้เลยครับ
 
 บริษัท Asus ริเริ่มตั้งขึ้นขึ้นเมื่อปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากชายทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung ซึ่งทั้ง 4 บุคคลนั้น ทำงานที่ Acer ด้วยกันมาก่อนจะตัดสินใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวข้องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแต่ก่อนจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus เริ่มแรกถูกตั้งชื่อว่า Pegasus คือม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ หมายถึงเครื่องหมายของแรงบันดาลใจและความรอบรู้ผู้สร้างทั้ง 4 เอามาตั้งคือนามบริษัท เพื่อแทนเจตนารมณ์ว่าหมายมั่นจะดำเนินธุรกิจการค้าด้วยความสง่างามน่านับถือ         

 สืบมาได้เปลี่ยนแปลงนามบริษัทเป็น  Asus แทนที่ เนื่องด้วยมีความหมายที่คล้องจองกัน และที่ต้องซูฮกในชั้นเชิงด้านธุรกิจการค้าคือแนวคิดที่ว่าเมื่อค้นโดยลำดับตัวอักษร จะค้นพบชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับหนึ่ง
 
                 และแน่นอนว่าถ้ากล่าวถึง Asus หลายคนคงจะระลึกถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งต้นตอของสายการผลิตนี้อยู่ราวๆ ปี 2006 ที่ Asus ได้ร่วมกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เน้นความเร็ว แรง มีการใช้สีและเครื่องหมายของ Lamborghini โดยคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
 
ปี 2007 Asus ก็ได้มาคิดค้นความแปลกใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กด้วยการเปิดฉาก Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ที่ไต้หวัน โดยในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่ให้ความสนใจ และทำให้ Asus ถูกจับตาดูในฐานะทัพหน้าด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
 
 ต่อมา Asus ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กออกมาอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ากระทั่งในศักราช 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดตัว Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวเริ่มแรกที่มีจอ พร้อมกับ Docking คีย์บอร์ดมาให้
 
 การแบ่งกลุ่มโน้ตบุ๊กของ Asus ใช้การแบ่งตามการใช้งาน เช่น
                รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นตระกูล N เน้นการใช้งานเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก
                รุ่นสำหรับนักเล่นเกมจะใช้รหัสซีรีย์ ROG (Republic of Gamer) ที่ดีไซน์มาสำหรับการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
 
ซึ่งโน้ตบุ๊กในแวดวงกิจการจะมี 3 ซีรีย์ คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่มุ่งเน้นการดีไซน์หรู มีสไตล์ VivoBook มุ่งเน้นที่ความบาง เบา Transformer Book โน้ตบุ๊กที่ปลดจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI โน้ตบุ๊กลูกผสม สามารถเป็นไปได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต

 แน่นอนว่า ทันทีที่เผชิญความมีชัยกับท้องตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแล้ว  Asus ก็ต้องหันเหมาลุยตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย ซึ่งเริ่มต้นจากการทำ PDA และโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับวางขาย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile เป็นส่วนใหญ่ และยังออกคุณลักษณะ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดเล็ก พร้อมกับกล้องถ่ายรูปดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล

 ในปี 2014 Asus ได้เปิดฉากตระกูลสมาร์ทโฟนตัวหลักของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่นามว่า Zenfone โดยมีจุดแข็งที่สเปกจัดเต็มในราคาที่ประหยัด ซึ่งคำว่า Zen เป็นคำที่คล้องจองกับคำคมหนึ่งของชาติไต้หวัน ซึ่งตีความได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำผสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เสมอเหมือนกับเป็นโทรศัพท์ในอนาคต ความหมายรวมคือ เครื่องไม้เครื่องมือที่ตอบความต้องการทั้งในในเวลานี้และภายหน้า Asus ยังสร้างสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2

 ในปี 2018 Zenfone ได้จำแนกเป็นรุ่นหลักๆ ดังต่อไปนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา เรียบร้อย พกพาง่าย
ZenFone 4 Max เป็นโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับการเดินทาง เพราะว่าแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie เน้นการถ่ายแบบเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้สวยงามแบบเรียลไทม์ช่วยขจัดเสียงรบกวนรอบตัว เหมาะกับสตรีมเมอร์
ZenFone โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ออกแบบออกมาเอาอกเอาใจวัยรุ่น

 ในส่วนของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการปรับปรุงมาอย่างสม่ำเสมอ แยกเป็นตระกูลตามวัตถุประสงค์การใช้งานดังต่อไปนี้
 
Ponepad เป็นการผสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ดีไซน์ลักษณะคล้ายไดอารี่จดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความคล่องให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถดัดแปลงการใช้งานจากมือถือ ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงเป็น Notebook ได้

 
วันนี้ Asus ได้แยกย่อยตัวเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
                Pegatron บริษัทผลิตชิ้นส่วน อาทิเช่น เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงต่างๆ
                Unihan เป็นผู้ประดิษฐ์เคสคอมพีซี และอุปกรณ์อื่นๆ
                Asus จะจำหน่ายตรงตัวสินค้าที่เป็นยี่ห้อ Asus เดิมแค่นั้น

Tags : Asus,Asus ราคา,เอซุส