สวัสดี บุคคลทั่วไป

ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 412 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
แม้นมือถือตัวหลักของค่าย Apple ในศก 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและเป็นแน่แท้ว่ามูลค่าก็แพงอีกด้วย อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เปิดตัวแค่ 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำตัวให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักคุ้นกัน ซึ่งต่อจากนั้นคงจะเสมอเหมือนเป็นรุ่นที่ถูกลืมเลือนเหตุเพราะกระแสของ iPhone X แต่ทราบหรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus แม้ว่าจะมีเค้าโครงหน้าตามิต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของ iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ อิฉันจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักมักคุ้นกับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
 
ไอโฟน 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในสหรัฐอเมริกาและจำหน่ายที่บ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องพอๆ กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีสมรรถภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นกัน อย่างไรก็ดีมีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีด้านหลังเป็นกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบไม่มีสายได้
 
 ในส่วนของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้เลือกแค่เพียง 2 ขนาด ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้ซื้อได้อย่างกว้างขวางพร้อมกับเร็วเพิ่มมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 ถึงแม้ความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาวะแสงในเวลานั้น เป็นเหตุให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งแยกเป็น 4-Core ที่ศักยภาพสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอึ้งอะไร โดยใช้งานได้อย่างลื่นไหล ที่เป็นที่ดึงดูดคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วไปพร้อมทั้งเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกชั้นสุดยอด ยกตัวอย่างเกมรถแข่งอย่าง Need for Speed ที่จำเป็นจะต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือไม่ก็ ROV ก็เล่นได้มิติดขัด

 กล้องได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล ถึงแม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม กลับมีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้มากขึ้น จับภาพในภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ถ่ายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้เราเลือกสรรปรับแสงหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายภาพข้างหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมทั้งแฟลชจากหน้าจอ Retina HD

                 ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะแลดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีเพียง 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกสรรได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดทั่วๆ ไป ด้านการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จปราศจากสายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า ไม่ต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาวางขายในเร็ว ๆ นี้โดยในเวลานี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่กระนั้นแนะนำว่าควรเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 ตกลงว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้จะคงไว้ออกแบบตัวเครื่องเริ่มแรกตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานฉายรูปน่าจะชอบการรวมกันของคุณภาพของกล้องที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมแต่งแสงเงาในภาพได้หลายหลากรูปแบบตามความอยาก ทำให้ในระหว่างที่ออก ออกขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์มือถือ
 
ส่วนหน้าจอที่งามบวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่ไม่เป็นรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวเรือธงใด ๆ ในตอนนี้ก็ถือว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่หากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเลื่อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะไปนั้น ก็แนะนำว่ารอคอยไปอีกสักหน่อย เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8