สวัสดี บุคคลทั่วไป

หนังสือธรรมะ ทำให้สบายใจ และจิตใจสงบ

  • 0 ตอบ
  • 368 อ่าน
 
 
ธรรมะ คืออะไร ?
 
ธรรมะเป็นสิ่งที่มีจริง พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม คือ รู้แจ้งเห็นจริงความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงๆ สิ่งที่มีจริงๆ ก่อนจะมีการตรัสรู้ไม่มีใครพบว่าเป็นธรรมะ เพราะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นเรา เป็นเขา เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ แต่ว่าเมื่อทรงตรัสรู้แล้ว ตรัสรู้ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา มีความหมายว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่ใช่วัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่เที่ยง แต่ว่าลักษณะของธรรมนั้น เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งต้องค่อยๆ ใคร่ครวญ ได้แก่ ขณะนี้อะไรจริง กำลังเห็นมีจริงๆ สิ่งที่ปรากฏทางตามีจริงๆ เสียงมีจริงๆ จิตที่ได้ยิน รู้เสียงนั้นมีจริงๆ ความสุขมีจริง ความทุกข์ทรมานมีจริง รูปแบบของแข็งมีจริง สภาพที่กำลังรู้แข็งมีจริง ทั้งผองนี้เป็นธรรมเพราะฉะนั้น ก็จะต้องศึกษาให้รู้ว่า ที่เคยยึดมั่นว่าเป็นเรา แต่ถ้าหากไม่มีตัวธรรมะที่เกิดขึ้นปรากฏ พวกเราก็ไม่มี แต่ว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเกิดขึ้น เนื่องจากความไม่รู้ก็เลยถือว่าสิ่งที่เกิดนั้นเป็นเรา หรือเป็นของเรา ได้แก่ รูปตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้น แต่เพราะความไม่รู้ก็ยึดมั่นรูปนั้นว่าเป็นเรา แม้แต่ภาวะของจิตใจ หรือความรู้สึกสุข กังวล ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่เมื่อไม่รู้ก็ยึดถือสภาพธรรมนั้นๆ ว่าเป็นเรา
 
ธรรมะคือหน้าที่
 
คำว่า "ธรรมะ" ก็เกิดเป็นคำที่มีความหมาย หรือมีความสำคัญขึ้นมาสำหรับพวกเราจะต้องรู้ ผมอยากจะพูดว่า คุณต้องจำคำว่า "ธรรมะ" นี้ไว้ให้ดีๆ "ธรรมะ" คำนี้ถ้าเกิดเป็นภาษาทั่วไปคือ "หน้าที่" ถ้าหากคุณไม่เคยทราบมาก่อน ก็ต้องได้ยินเสียเดี๋ยวนี้ว่า คำว่าธรรม หมายความว่าหน้าที่ ที่จำเป็นต้องปฎิบัติ คุณลองคิดดูว่า คำว่า "ธรรมะ" จะเกิดมาในโลก ในภาษาพูดของผู้คนได้อย่างไร? มนุษย์ในสมัยหินก็ไม่มีคำๆ นี้ใช้ แล้วต่อมามนุษย์ก้าวหน้า จนรู้จักคำพูดคำนี้ใช้ขึ้นมา เขาเล็งถึงอะไร? คำพูดคำนี้เกิดขึ้นที่ริมฝีปากมนุษย์ พูดกันเป็นครั้งแรก มันเล็งถึง หน้าที่ ที่จำต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ มันเลยกลายเป็นของดีที่สุดไปเลย ด้วยเหตุว่าไม่ทำ ไม่ได้ ต้องทำ คำว่า "ธรรมะ" จึงมีความหมายว่า "หน้าที่" ส่วนที่เรามาแปลกันว่า คำสั่งสอน หรืออะไรออกไปนี้ มันเป็นเรื่องทีหลัง อบรมสั่งสอนเรื่องอะไร? ก็อบรมสั่งสอนเรื่องหน้าที่ ถ้าว่าธรรมในฐานะที่เป็น มรรค ผล นิพพาน นั่นก็คือผลของหน้าที่ เพราะฉะนั้นมันเกี่ยวกับหน้าที่ของคนเรา มนุษย์ทุกคนมีบทบาท ทุกคนจะต้องปฏิบัติภารกิจให้ดี นับตั้งแต่หน้าที่ชั้นล่างๆ ธรรมดาสามัญที่สุด อาทิเช่นจะทานข้าว อาบน้ำ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ อะไรก็ตาม เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ และจำเป็นต้องทำให้ดี
 
ทีนี้ พวกเราก็มีหน้าที่ตามธรรมชาติ คือหาเลี้ยงชีวิต ซึ่งจำต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าต้องมีคู่ชีวิต ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของมนุษย์ตามธรรมดาหรือสัตว์ตามธรรมดา มันก็ต้องทำให้ถูกต้อง มีครอบครัวขึ้นมา ก็จำต้องทำให้ถูก ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่จะจะต้องทำให้ถูกต้อง สูงขึ้นไป-สูงขึ้นไป จนกระทั่งทางจิตใจ ก็จะต้องทำจิตทำใจ ให้ถูกต้อง จนกระทั่งกว่าจะตายไป ก็ให้มันตายอย่างถูกต้อง ทั้งหมดนี้มันอยู่ในคำๆ เดียวว่า "หน้าที่" เรียกเป็นภาษาบาลีว่า "ธมฺม" ในภาษาสันสกฤตว่า "ธรฺม"ภาษาไทยว่า "ธรรม" เมื่อทราบดีว่า ธรรม คือหน้าที่แบบนี้แล้ว มันก็ง่ายเข้าที่จะรู้ว่า ฆราวาสนั้นมีบทบาทอย่างไร?
 
ธรรมะคือธรรมชาติ
 
ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีความเป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย หรือเรียกว่าสภาวธรรม ยกตัวอย่างเช่นคุณงามความดี หรือความชั่ว ย่อมมีเหตุผลส่งต่อกันให้เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ความดี ย่อมมีต้นเหตุมาจากบุญกุศลธรรม ส่วนความชั่ว ก็ย่อมเป็นผลมาจากอกุศลธรรม อกุศลธรรมเป็นรากของ โลภะ โทสะ โมหะ ที่ทำให้คนประพฤติมิชอบไปในทางเลว เป็นไปในทุจริตธรรม ๓หมายถึงทางกายโกง ทางวาจาทุจริต และก็ทางใจคดโกง โกงทั้ง} ๓ อย่างไม่ควรปฏิบัติเนื่องจากว่าจะมีผลให้สังคมเดือดร้อน อกุศลกำเนิดได้ยังไง ก็เกิดจากความไม่มีการสังวรอินทรีย์ ปล่อยให้เกิดความรู้สึกยินดียินร้ายบ้าง,ความรู้สึกพอใจหรือไม่ พอใจบ้าง,ความรู้สึกประทับใจหรือไม่พอใจบ้าง, ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการได้มองเห็นรูป ได้ยินเสียง ได้สูดกลิ่น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางร่างกายมีเย็นหรือร้อนอ่อนหรือแข็ง นี่แหละเป็นเหตุต้นสายปลายเหตุให้เป็นไปในอกุศล อกุศลธรรม ส่งผลให้มนุษย์เรามีอัตตาและก็อคติมองดูคนในแง่ร้าย ติเตียนนินทาใครๆ ในใจอยู่เป็นประจำหากแม้พ่อแม่ก็ไม่เว้น และก็คิดพยาบาทอาฆาตแค้น คิดร้ายใครๆ ในใจอยู่เสมอก็เลยเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ทรมานตามมาให้ผล มีทุกข์ในชาตินี้ แล้วก็ทุกข์ในชาติหน้าด้วย
 
เพราะอะไร? หนังสือธรรมะอ่านแล้วถึงจิตใจสงบ
 
เวลาที่พวกเรารู้สึกรำคาญ ไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกกลุ้มใจในหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทุกวันของเรา เรามักจะไปพึ่งพิงหนังสือธรรมะหรือวีซีดีธรรมะ ไม่ว่าจะเป็นบทสวดมนต์ คำอบรมสั่งสอนนิทานหรือเรื่องราวอะไรต่างๆ ที่ช่วยทำให้เราอ่านแล้วศึกษาแล้วสุขใจ
 
ปกติมนุษย์เรานั้นเมื่อพวกเราได้บริโภคสิ่งไหนเป็นปริมาณมาก พวกเราก็มักจะมีจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งพวกนั้น ทดลองเทียบว่าเมื่อพวกเราได้บริโภคข่าวสาร ข่าวสารดารา หรือดูหนังอะไรซักเรื่องหนึ่งที่เป็นหนังเรื่องยาว พอเริ่มต้นที่พวกเราดูหนัง อารมณ์ของพวกเราอาจจะยังไม่ค่อยซึมซับความมันส์ในหนังเรื่องที่กำลังดูอยู่สักเท่าไหร่ แต่พอเราดูไปถึงกลางเรื่อง จิตใจพวกเราเริ่มจดจ่ออยู่กับหนังเรื่องนั้นและก็เราก็จะมีความรู้สึกสนุกตื่นเต้นไปกับมันเช่นเดียวกัน ถ้าว่าหนังนั้นเป็นหนังความรัก พวกเราก็จะมีความรู้สึกอินฉบับเลิฟตามไปด้วย ถ้าหนังนั้นเป็นหนังผี พวกเราก็จะมีจิตใจหม่นหมองสยองตามไปด้วย ทั้งทั้งที่ข้างตัวเราเองไม่ได้มีเรื่องมีราวของความรักรวมทั้งผีเข้ามาอยู่ในรอบตัวของเราเลย เพียงแค่มันถูกครอบนำจิตใจพวกเราไปจนถึงหมดสิ้นแล้ว
 
คนที่ได้ฟังธรรมะหรืออ่านหนังสือธรรมะก็เลยมีจิตใจที่สงบนิ่ง เป็นผลจากการบริโภคข้อมูลเนื้อหาที่ไม่ชวนคิดฟุ้งซ่านปวดหัว แตกต่างจากกลุ่มคนที่ชอบบริโภคเสพข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีแต่เรื่องเครียด เรื่องคิดเยอะ ชอบให้จิตใจตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
 

 
10 หนังสือธรรมะ ศาสนา และปรัชญา ที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. อมตะสยาม
การศึกษาพระเครื่องทุกวันนี้ ไม่เป็นไปตามความจริงที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์เป็นเรื่องใหญ่ พระเครื่องในเมืองไทยเรานี้เป็นเรื่องใหญ่มาก มียอดเงินหมุนเวียนในแต่ละปีหลักหลายร้อยล้าน แต่สำหรับเราๆ ท่านๆ ก็ไม่มีโอกาสให้เช่าในราคาสูงลิบ
ผู้เขียนคิดว่าเราต้องใช้องค์ความรู้เผยแพร่ให้ทุกคน หันมาศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อเราศึกษาอย่างจริงจังแล้วผลของการศึกษา นำมาซึ้งองค์ความรู้แล้วเปลี่ยนไปเป็นวิชาชีพ เลี้ยงครอบครัวได้ การเรียนรู้ก่อให้เกิดรายได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาคนนั้นจะต้องมั่นในศิลธรรมอันดีงามด้วย ไม่เบียดเบียนใคร เรื่องการซื้อขายเป็นเรื่องธรรมดาต้องมีกำไร แต่ไม่ควรหลอกลวงใครให้หลงเชื่อ ให้มีสัจจะ ให้มีหิริโอตัปปะ บุคคลนั้นจะเจริญแน่นอน
 
2. วิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์
"วิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์" ผลงานเล่มใหม่ของพระไพศาล วิสาโล สอนวิธีปฏิบัติให้เราฝึกไม่เป็นทุกข์กับอะไร เป็นสภาวะที่ทำให้เป็นอิสระ ไม่ยึดเกาะเกี่ยวกับสิ่งใด วางใจเป็นกลาง แค่ฝึกวิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่เป็นทุกข์จากเล่มนี้ คุณก็สามารถนำไปใช้ได้กับความทุกข์ที่เกิดขึ้นในทุกเรื่อง ทุกสถานการณ์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เราต้องการความสงบ เพราะความสงบนำมาซึ่งความสุข ความสงบสุขนั้นหาได้ยากยิ่งในทุกวันนี้ เพราะถึงแม้เราจะต้องการความสงบ แต่ในชีวิตประจำวันกลับเลือกเข้าหาความไม่สงบอยู่ตลอดเวลา
ความอึกทึกวุ่นวายจากภายนอกยังพอหลบหลีกไปหาสถานที่ที่สงบเงียบได้บ้าง แต่ความว้าวุ้น วุ่นวายภายในจิตใจเป็นสิ่งที่เราห้ามหรือหลีกเร้นไปแทบไม่มีเลย โดยเฉพาะในสังคมก้มหน้า เห็นคนนั่งกันเป็นกลุ่มไม่พูดไม่คุยกัน ใช่ว่าจะสงบ เพราะแต่ละคนกำลังวุ่นวายอยู่ในโลกของโซเชียล นำมาซึ่งเหตุแห่งความทุกข์จากอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
 
3. ทางลัดสู่ความพ้นทุกข์
หลวงพ่อคำเขียนได้แนะนำการปฏิบัติตั้งแต่ขั้นต้น เน้นการวางใจให้ถูกต้องเพื่อสร้างความรู้สึกตัวให้เกิดขึน รู้กายเคลื่อนไหว รู้ใจคิดนึก เมื่อมีอารมณ์ใดเกิดขึ้นก็ให้มีสติ แล้วความรู้สึกตัวจะเกิดขึ้น และจะทำให้เกิดปัญญา เห็นแจ้งในสัจธรรมจนหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง จนเข้าถึงความพ้นทุกข์ได้ในที่สุด
"อยากพ้นทุกข์ให้ปฏิบัติธรรม อยากปฏิบัติธรรมให้มี 'ความรู้สึกตัว' น้อยคนนักที่จะรู้ว่าทุกข์ละได้โดยการ "รู้ทุกข์" ซึ่งจะรู้ทุกข์ได้นั้น ก็ต้องฝึกที่จะมีสติและมีความรู้สึกตัว "ทางลัดสู่ความพ้นทุกข์" เล่มนี้ หลวงพ่อคำเขียนได้แนะนำวิธีฝึกปฏิบัติเพื่อให้มีสติ เปลี่ยนจาก "หลง" ให้กลายเป็น "รู้" หลงก็รู้ ทุกข์ก็รู้ ปวดก็รู้ เมื่อยก็รู้ ง่วงก็รู้ เบื่อก็รู้.. รู้สึกตัวทุกขณะตามที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้เราก็สามารถเข้าถึงธรรมได้จนถึงขั้นบรรลุธรรม
 
4. นิพพาน..ที่ที่..เดี๋ยวนี้
สำหรับชาวพุทธรุ่นใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า "นิพพาน" หรือยังรู้สึกว่านิพพานเป็นเรื่องห่างไกลจากชีวิต หนังสือ "นิพพาน..ที่นี่..เดี๋ยวนี้" เล่มนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดียิ่งในการทำความรู้จักกับ "นิพพาน" จากพระพุทธวจนะอย่างตรงจุด ผ่านการตีความและการประยุกต์ใช้ตามทัศนะที่เปิดกว้างและหลากหลายของท่านพุทธทาสภิกขุและพระวิปัสสนาจารย์แห่งยุคสมัยอีก ๔ รูป ที่จะทำให้นิพพานกลายเป็นเรื่องที่ชัดเจน ร่วมสมัย และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ชัดเจน ร่วมสมัย และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ส่วนสำหรับชาวพุทธตัวจริง ผู้อยู่ระหว่างการศึกษาปฏิบัติธรรมและมีนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางในชีวิตอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้จัดว่าเป็นกัลยาณมิตรชั้นดีที่จะคอยเตือนสติว่า การปฏิบัติไม่ใช่เรื่องของความมุ่งมาดคาดหวังในอนาคตจนหลงลืมความสำคัญของปัจจุบันขณะ แต่คือการหมั่นดึงตัวเองกลับมาอยู่กับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต และมุ่งใช้ชีวิตในแต่ละขณะให้เปี่ยมเต็มและสมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้เกิด นิพพาน..ที่นี่..เดี๋ยวนี้ ขึ้นในทุกๆ ขณะของชีวิต อันจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่โลกกุตรนิพพานทีแท้จริงต่อไป
หนังสือเล่มนี้จะพิสูจน์ให้ชาวพุทธทุกคนเห็นจริงว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ สี่แยกไฟแดง ในศูนย์การค้า กลางที่ประชุม หรือบนรถเมล์.. นิพพาน" นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และให้ผลได้จริง.. ที่นี่และเดี๋ยวนี้
 
5. ชุดนรกสวรรค์ผลจากทำบุญบาป
"นรก" ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ของเหล่าดวงวิณญาณทั้งหลาย ความร้อนจากไฟนรก ที่ไม่มีวันดับ ความคมของเครื่องทรมานที่ไม่มีวันทื่อ การลงโทษ นิรยบาล ที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย และความทุกข์ทรมานของสัตว์นรกที่ไม่มีวันตาย ไม่มีวันจบสิ้น นรก จึงเป็นดินแดนแห่งการลงโทษ ความบาป ของผู้ที่กระทำผิด ด้วยความยุติธรรม... "สวรรค์" ดินแดน ที่เต็มเปี่ยม ไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ วิจิตรงดงาม และเป็นที่ที่หลายคนปรารถนาจะไปเกิด เพื่อเสวยสุขอันประณีตงดงาม อันเป็นผล มาจากบุญกุศล ที่ตนได้สร้างไว้ในอดีต... และเพื่อเป็นการยืนยันว่า นรก สวรรค์ และการเวียนว่าย ตาย เกิด ในภพภูมิต่างๆ นั้นมีอยู่จริง หนังสือเล่มนี้ ยังได้รวบรวมเรื่องเล่าจาก "พระอริยเจ้า" ที่ท่านทั้งหลายได้ยืนยันด้วยประสบการณ์ที่ได้พบเจอมากับตัว
 
6. ธรรมะจากพระภูเขา MONK IN THE MOUNTAIN
เป็นผลงานเขียนชิ้นแรกของพระอาจารย์สุมโน ภิกขุ ที่ได้รับการแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ เป็นพระภิกษุชาวอเมริกันที่มีจริยาวัตรอันงดงาม ปฏิบัติธรรมอย่างสันโดษและจริงจัง ณ ถ้ำสองตา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ท่านได้ละทิ้งชีวิตอันรุ่งเรืองทางโลก เพื่อหันมาพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุและปฏิบัติตามแนวทางของพระอาจารย์ชา สุภทฺโท อย่างเคร่งครัด ด้วยความเมตตาอันเปี่ยมล้นของท่าน ทำให้มีญาติโยมและผู้ที่ผ่านไปมา ได้มาขอคำปรึกษาชี้แนะทั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม ซึ่งแต่ละคำถามนั้นล้วนน่าสนใจและมีหลายคนที่ประสบในสถานการณ์ใกล้เคียงกัน ท่านจึงรวบรวมและเรียบเรียง คำถาม-คำตอบ เพื่อถ่ายทอดธรรมะอันเปี่ยมด้วยสาระ ลึกซึ้ง และควรน้อมนำไปปฏิบัติ สำหรับทุกเพศทุกวัย
 
7. ทางสายกลาง ศรัทธาอย่างมีเหตุผล The Middle Way Faith Grounded in Reason
จะเข้าถึงพุทธธรรมนั้นมิอาจทำได้ด้วยลำพังศรัทธาและความทุ่มเท แต่จะต้องมีการสอดส่องธรรมอย่างอุกฤษฏ์ วิธีนี้เรียนว่า "วิถีแห่งผู้มีปัญญา" เป็นวิถึปฏิบัติที่คุรุลันทาทั้งหลายพร่ำสอนในงานเขียนของพวกท่าน หากศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมคำสอน ได้รับการบ่มเพาะด้วยวิถึแห่งผู้มีปัญญาเยี่ยงนี้ ศรัทธานั้นจะมั่นคง และเป็นศรัทธาในระดับสูงสุด ถ้าเช่นนั้น เราจะทำอย่างไรจึงจะเกิดศรัทธาที่ไม่คลอนแคลนเช่นนี้ได้
ขอให้ปัญญาของคุรุนาคารชุน ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งองค์ทะไลลามะได้ถ่ายทอดไว้อย่างน่าจับใจ จงเป็นบ่อเกิดของแรงบันดาลใจและปัญญาให้แก่ผู้แสวงธรรม ขอให้ทุกท่านเข้าถึงความรู้แจ้งบนเส้นทางนี้ด้วยเถิด
 
8. พรตลอดปี ชีวิตดีตลอดไป
หลักธรรมเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต - ศรัทธาและปัญญาช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า มีความสุข และเป็นอิสระ - เมื่อตนมีความสุข สังคมก็มีความสุข - สอนให้เข้าใจว่าเวลาทุกขณะ คือโอกาสก้าวหน้าของชีวิต - คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น คือการทำให้ชีวิตก้าวหน้าและเป็นสุข ข้อปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ปีเก่าเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เราก็นึก เราอยากจะให้เป็นเรื่องที่ผ่านพ้นกันไปเสียที ก็หมดๆ ไป เราคิดแค่นั้น คิดว่าให้มันผ่านไป ส่วนปีใหม่เราก็มองไปข้างหน้า ด้วยความหวังว่าจะมีความเจริญงอกงาม บางทีก็เป็นการฝันลมๆ แล้งๆ แต่ความจริงสิ่งที่ปฏิบัติได้คือปัจจุบันเท่านั้น เวลา อดีตเราย้อนกลับไปทำอะไรมันไม่ได้ อนาคตเราก็ยังไปทำอะไรไม่ได้ มันไม่ได้อยู่กับเรา สิ่งที่อยู่กับเราแน่นอนคือปัจจุบัน ใช้ปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ก็คือทำเหตุปัจจัยให้สำเร็จผลที่ต้องการแล้วอนาคตที่ต้องการมันก็จะกลายเป็นเรื่องราวการวางแผนที่ถูกต้องขึ้นมา เชิญผู้อ่านทุกท่านพบข้อปฏิบัติเพื่อความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ขอกราบนมัสการขอบพระคุณพระเดชสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผู้แสดงธรรม
 
9. สมาธิกับการทำงาน
ใจที่สงบเป็นใจที่ได้รับการบริหารและพัฒนา เป็นใจที่มีพลัง จะทำอะไรก็จดจ่อ กำกับสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ไม่ขาดตอน คนมีสมาธิจึงเป็นคนที่ทำงานทุกชนิดเสร็จเร็วและเรียบร้อยไม่บกพร่อง สามารถรับงานปริมาณมากๆ และทำงานหนักได้โดยไม่มีปัญหาเหมือนคนขาดสมาธิ"สมาธิกับการทำงาน" จึงเป็นหนังสือที่จะนำไปสู่ความเข้าใจชีวิตและปัญหาอย่างแท้จริง เพราะสมาธิทำให้จิตใจสงบ แม้บางปัญหาจะแก้ไม่ได้ แต่สมาธิจะทำให้เข้าใจและสามารถเผชิญปัญหาได้ด้วยความสงบ ไม่ตื่นตระหนก สมาธิจึงเป็นบันไดขั้นแรกของการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
 
10. ไม่โกรธอีกต่อไป
คู่มือปลดล็อกความหงุดหงิด วุ่นวายใจบรรเทาความเครียดในชีวิตประจำวันได้จริง เราจะมาหยุดการแล่นไปมาของ "ความโลภ" "ความโกรธ" "ความหลง" ไปด้วยกัน ด้วยการทำความเข้าใจโครงสร้างของจิตที่ทำให้ "ความโลภ" "ความโกรธ" "ความหลง" เกิดขึ้นมาด้วยหนังสือ "ไม่โกรธอีกต่อไป" เล่มนี้ จากนั้นก็ควบคุมความคิดที่ไร้ประโยชน์ให้สำเร็จ เพื่อที่ความโกรธนี้จะได้ไม่ต้องทำให้ตนเองเจ็บปวดและไม่ต้องทำร้ายผู้อื่น