สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศภายในบ้านหมดจดไม่ยาก ด้วยเครื่องกรองสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 311 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
            ปัจจุบันนี้สภาพอากาศที่เราหายใจเข้าเกือบจะคือสภาพอากาศประกอบด้วยแค่ฝุ่นละอองพร้อมทั้งสิ่งโสโครกที่แปลกปลอมเข้ามาในนั้นอาจเป็นเหตุให้เจ็บป่วยไม่ยาก หรือว่าสูดไม่ค่อยสบายได้ เช่นนั้นแล้วการที่อาศัยอยู่ในมลภาวะสิ่งโสโครกเราก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำต้องสูดดมสภาพอากาศเอาพวกนั้นไปภายในร่าง
            แต่ว่าตอนคุณกลับมาที่พักคุณเป็นไปได้ว่าสมมติอากาศข้างในที่พักสะอาดกว่าข้างนอกจริงอยู่แต่ทว่าก็สามารถมีฝุ่นผงมาจากข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่บางทีเราคงจะคิดว่าก็ล้างบ่อยๆ หรือว่าที่เกาะมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายคุณที่ไปข้างนอกมาตลอดวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เราจำเป็นต้องอยู่กับมลพิษทุกขณะ ดังนั้นแล้วคุณเลยจำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยที่เรียกว่า เครื่องกรองอากาศ เอาไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยให้บ้านใสสะอาดและยังคุณได้รับสภาพอากาศบริสุทธิ์บ้างสำหรับทุกวัน
            โดยที่ที่กรองสภาพอากาศที่ใช้งานภายในบ้านมี 4 ลักษณะด้วยกันเช่น 1. ที่กรองอากาศลักษณะใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วล่ะก็คาร์บอนประกอบด้วยสรรพคุณสำหรับดูดจับสิ่งสกปรกพร้อมด้วยกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วก็เลยมีการเอามาผลิตเป็นที่กรองสภาพอากาศที่ทำจากคาร์บอนให้ทำงานภายในขบวนการกรองสภาพอากาศ 2. ที่ฟอกสภาพอากาศลักษณะใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่เครื่องฟอกอากาศรูปแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้เพื่อดักจับผงหลายอย่าง เพราะว่าประจุไฟฟ้าช่วยล่อฝุ่นผงดีอาจจะมีอนุภาคเล็กมากก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองธรรมดา ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันไฟบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศยังงี้เหมาะกับคนที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือไม่ก็เป็นภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศลักษณะคุณภาพสำหรับสกัดมากๆ (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA เป็นเครื่องกรองสภาพอากาศที่มีสมรรถนะในการกรองสภาพอากาศสูงมากเนื่องจากส่วนที่กรองทำที่มาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้ใสสะอาดมากถึง 99% แต่ว่าข้อบกพร่องก็คือไม่สามารถดูดควันหรือว่าดูดซับกลิ่นได้ คือเครื่องกรองอากาศที่มักจะใช้ในโรงพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางชนิด โดยไส้กรองอายุการทำงานยาวนานมากถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกสภาพอากาศลักษณะผสมผสาน คือเครื่องกรองสภาพอากาศที่แบบประสม 2 ระบบเข้าด้วยกันคงเป็นการรวมกันของ Carbon เข้ากับ Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้ตามใจว่าผู้ประกอบการมุ่งหวังให้ที่ฟอกอากาศใช้งานออกบนแบบใด
            เทียบกับรูปแบบเครื่องกรองสภาพอากาศเท่าที่มีที่กล่าวถึงคงมีหลายคนงงงวยเกี่ยวกับแล้วจะมีแนวทางการคัดเครื่องกรองอากาศอย่างใดเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเองที่สุด อย่างแรกจำเป็นต้องรู้จักอากาศภายในที่พักอาศัยตัวเองก่อนว่ารูปแบบอากาศรอบบ้านเป็นอย่างไร ที่มีฝุ่นละอองเยอะหรือเปล่า หรือไม่ก็มีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่าเลยค่อยเลือกใช้ที่กรองสภาพอากาศถัดจากนั้นที่การเลือกตัวที่กรองสภาพอากาศโดยเครื่องที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 หน่วยข้างในเพียงอันเดียวคือ  สกัดฝุ่น ดักจับฝุ่น พร้อมกับดูดซับกลิ่นข้างในเครื่องเดียว รวมถึงมีแรงที่ทำให้ดึงอากาศโดยรอบ เพื่อไปกรองรวมถึงปล่อยอากาศสะอาดออก เช็คดูก่อนว่าระบบสกัดอากาศพร้อมด้วยแผ่นกรองคือรูปแบบที่เราอยากได้หรือไม่รวมถึงสามารถเอาไปซักล้างสะดวกหรือไม่รวมถึงพวกมูลค่าแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาที่กรองหมดอายุจะสามารถเลือกซื้อได้ง่าย ท้ายที่สุดก็เป็นการคิดค่าที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็เป็นตัวเลขเอาไว้เปรียบเทียบสมรรถนะสำหรับใช้งานเกี่ยวกับที่ฟอกสภาพอากาศโดยค่านี้จะมีการเพิ่มขึ้นถ้าหากมีคนในห้อง
            ในเรื่องจากการใช้งานตลอดจนการดูแลรักษาคือ การทำงานสำหรับที่กรองอากาศควรปิดห้องให้เครื่องฟอกอากาศใช้งานทิ้งไว้ก่อนที่จะเข้าภายในห้องเพื่อจะได้อากาศใสสะอาดก่อน ด้านการดูแลทำความสะอาดเป็นพึงชะล้างแผ่นกรองอย่างน้อยทุก  3 เดือน  ด้วยการเอามาชำระล้างแล้วไปตากให้หายชื้น  เพื่อให้ทำลายเชื้อไวรัส  หรือว่าเก็บกวาดดังที่เอกสารแนะนำชี้ตัวไว้ แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่อยากล้างบ่อยๆ ก็ควรจะเลือกซื้อประเภทประจุไฟฟ้า เพราะแม้จะมูลค่าสูงกว่าชนิดนอกจากนี้แต่ว่าไม่จำเป็นต้องล้างประจำและยังดูแลง่าย
จะเห็นว่าที่ฟอกสภาพอากาศมีหลายอย่างและวิธีการในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนอกจากการเอาใจใส่ความสะอาดสะอ้านก็ยังง่ายดายอีกด้วย โดยที่กรองอากาศมีมาให้ซื้อกันมากมายด้วยกันอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ ตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี