สวัสดี บุคคลทั่วไป

แนวทาง สอนประวัติศาสตร์เช่นไรให้สนุกสนาน

  • 0 ตอบ
  • 285 อ่าน
1. ถ้าเกิดจะต้องจำ จำปี แทงบอลฟรี  คริสต์ศักราช

เคล็ดลับนี้ช่วยได้มากมายเลยครับ ถ้าหากเด็กนักเรียนจะต้องจำปีที่หลักๆทางประวัติศาสตร์จริงๆต้องการให้ทดลองจำเป็นจะต้องปี คริสต์ศักราช แทน แล้วหากอยากได้เป็นปี พุทธศักราช ก็เอามาบวกกับ 543 เพราะเหตุว่าการจำปี พุทธศักราช เด็กนักเรียน จะเชื่อมโยงเหตุกับเหตุการณ์โลกได้เลย แถมยังจำเป็นต้องจำซ้ำไปซ้ำมากับเหตุการณ์โลกอีก

ดังเช่นว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 กำเนิดในตอนปี พุทธศักราช 2482 – 2488 หากจำอย่างนี้จะง่ายกับการอ่านประวัติศาสตร์ไทย แต่ว่าต้องจำอีกทีกับประวัติศาสตร์โลก เนื่องจากว่า ทางประวัติศาสตร์โลกใช้ปี คริสต์ศักราช ให้จำปี คริสต์ศักราชหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 กำเนิดในปี 1939 – 1945 จะมีผลให้พวกเราจำจำนวนเพียงแค่ชุดเดียว แล้วก็มองเห็นความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โลก รู้ดีว่าตอนจุดเกิดเหตุการณ์ในไทยเกิดขึ้นพร้อมๆกับสถานะการณ์ใดบ้างในโลก จำครั้งเดียวเกินพอจ้ะ ตอบได้ทุกข้อแน่ๆ

นอกเหนือจากนี้การจำเชื่อมโยงกับปีที่หลักๆกับตนเองก็เป็นอีกเคล็ดวิธีที่ช่วยได้มาก ได้แก่ สถานะการณ์ 9/11 ในปี 2001 ตรงกับตอนที่พวกเราอยู่ มัธยม 2 หรือ วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 1997 ตรงกับตอนพวกเราเข้าเปรียญ 1 อะไรอย่างนี้ จะก่อให้น้องๆคิดออกปีของสถานะการณ์ได้ดียิ่งไปกว่ามานั่งจำจำนวน 4 ตัวครับผม ทดลองดู!!

2. เม้าท์ประวัติศาสตร์

การเม้าท์หรือเล่าราวแบบภาษาตนเองในประวัติศาสตร์ให้ราวกับคุยกับเพื่อนฝูง บางครั้งอาจจะคุยให้ตนเองฟัง หรือรวมกลุ่มกับเพื่อนฝูงในตอนก่อนสอบก็ช่วยทำให้พวกเราจำเนื้อหาได้ ยิ่งถ้าหากคุยกับสหายๆด้วยเนี่ย จะก่อให้พวกเราได้ข้อมูลใหม่ๆที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะตกหล่นได้เพิ่มด้วย เพราะว่าสหายๆจะช่วยเหลือกันโต้เถียง เสมือนโต้เถียงๆกัน แม้กระนั้นพวกเราได้เรื่องทราบเยอะ ยกตัวอย่างเช่น

คุณครูแสนดีเม้าท์ให้สหายฟังว่า “เหย เอ็ง ,,, แทงบอลฟรี  เป็นงี้นะ สงครามโลกครั้งที่ 1 เนี่ย กำเนิดด้วยเหตุว่าลอบสังหารมโลภฎราชกุมาร ฝั่งนี้เลยไม่ชอบใจ ทำสงคราม แล้วนี่ก็เลยเข้าข้างกับโน่น การศึกก็ตู้ม เฉพาะในยุโรป แล้วแบบก็ลงนามกันที่พระราชสำนักแวร์ซาย เลยเป็นสัญญาแวร์ซาย แล้วทีนี้คือเยอรมันนางเสียเปรียบมากมาย นางก็เลยโกรธแค้น นางเฟล นางก็เอาอีก ตอนนี้การรบใหญ่ เลยเอามาสู่สงครามโลกครั้งที่2” ฯลฯ

จากแบบอย่างพวกเราก็จะได้เล่าประวัติศาสตร์ยากๆในภาษาตนเอง แถมถ้าหากคุยกับสหายๆก็จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ช่วยเหลือกันเติมเต็มได้ ,,, อีกอย่าง กว่าจะเล่าสนุกสนานแบบงี้ พวกเราจำเป็นต้องทราบแล้วพอสมควร ถึงจะเล่าให้ง่ายได้จริงมั้ย ?