สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์มือถือกับการเชื่อมโลกด้วยเทคโนโลยี VoIP และก็ IMS

  • 0 ตอบ
  • 279 อ่าน
ในขณะ 2-5 ปีที่กำลังเดินทางมาถึงนี้ นับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่สำคัญยิ่ง ดังนี้เพราะระบบโทรศัพท์มือถือแล้วก็โครงข่ายอินเทอร์เน็ตมีการหลอมรวมกัน (Convergence) อย่างชัดเจนเจนขึ้นเป็นลำดับ โดยมีการคาดคะเนว่า ในอนาคตโทรศัพท์มือถือจะเติบโตพร้อมกันไปกับการใช้บริการ Content บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีของ Web3.0 แล้วก็ความประพฤติปฏิบัติการใช้แรงงานของผู้ซื้อในสมัย Net Generation จะมีผลให้เป็นแรงกระตุ้นให้อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ สร้างเครื่องมือซึ่งสามารถเกื้อหนุนการใช้แรงงานในด้าน Mobile Social Network เพิ่มมากขึ้น ประกอบอีกทั้งการขับเขยื้อนของแนวความคิด Ubiquitous network ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ก็ยิ่งทำให้แนวทางของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือมุ่งสู่การผลิต Application ที่เกี่ยวกับ Mobile Social Network อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็มีการเดาจากกรุ๊ปศึกษาค้นคว้า ABI Research ว่า กลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในอนาคตจะมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ ที่มีลักษณะ Global, Interactive และก็ Dynamic มากเพิ่มขึ้น จนกระทั่งอาจจะก่อให้ตัวแบบธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นที่เชื่อมโยงกับธุรกิจโทรศัพท์มือถือแปรไปอย่างเร็ว (รูปถัดไปแสดงการคาดเดาการใช้แรงงานโทรศัพท์มือถือในลักษณะโซเชียลมีเดีย (Mobile Social Network) ในตอนปี 2008-2013 ของกรุ๊ปศึกษาค้นคว้า ABI Research)




รูปแสดง การทายการใช้แรงงานโทรศัพท์มือถือในลักษณะโซเชียลมีเดีย (Mobile Social network) ในตอนปี 2008-2013 ของกรุ๊ปศึกษาค้นคว้า ABI Research จาก www.abiresearch.com 

           จากการเชื่อมต่อผู้คนทั่วทั้งโลกในลักษณะโซเชียลเน็ตเวิร์คบนโลกอินเทอร์เน็ต ก็เลยทำให้การพัฒนาเทคโนโลยี IP Multimedia Subsystem (IMS) รวมทั้ง Voice-over-IP เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อรองรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกแบบผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนรวมทั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่สามารถให้บริการ Multimedia ต่างๆได้จากโทรศัพท์มือถือ โดยอยู่บนรากฐานของการส่งข้อมูลบนโครงข่ายบนมาตรฐาน Internet Protocol (IP) ซึ่งสามารถใช้บริการการเชื่อมต่อผู้คนทั้งโลกด้วยค่าสำหรับบริการราคาไม่แพงที่พอๆกับการใช้บริการการติดต่อสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต

           เทคโนโลยี IMS จะก่อให้การให้บริการโทรศัพท์มือถือในอนาคตมีบริการที่มากมายรวมทั้งทรงอำนาจ อย่างเช่น บริการ Face-to-Face Communication (Presence), บริการเจาะจงสถานที่ตั้งต่างๆ(Location Based Services) แล้วก็  บริการโซเชียลมีเดียแบบเคลื่อน (Mobile Social Network) ฯลฯ ซึ่งเป็นการให้บริการแบบ Real time ส่วนตัว เป็นการสร้างความชอบใจให้กับผู้รับบริการเยอะขึ้น รวมทั้งช่วยยกฐานะคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการ เช่น บริการแสดงภาพเคลื่อนไหวขณะใช้งาน (Presence) ทำให้พวกเราสามารถเห็นเพื่อนพ้องหรือฝูงชนที่พวกเราต้องการจะติดต่อ ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนใดของโลก จุดหักเหที่สำคัญในอนาคตเป็นการให้บริการของโทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถให้บริการ การสัมมนาทางโทรคำศัพท์แบบมองเห็นหน้า (Video conference) จากรอยต่อจุด (point to point ) ไปสู่การให้บริการหลายๆจุด (Multipoint) โดยการสัมมนาทางโทรคำศัพท์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว จำเป็นจะต้องใช้บริการสะพานเชื่อมต่อของ IMS เพื่อจะเชื่อมต่อแนวทางการทำ Video call จากหลายจุดเข้าด้วยกัน  โดยการเชื่อมต่อการสัมมนานั้น จะไม่มีปัญหาในด้านความไม่เหมือนของเครือข่ายและก็เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อ (Client device) อีกต่อไป รวมทั้งการเชื่อมต่อดังที่กล่าวมาข้างต้นก็จะกระทำการส่งผ่านเครือข่าย IP เพราะฉะนั้น ผู้รับบริการสามารถใช้บริการ Video conference ได้จากหลายเทคโนโลยีซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ Mobile Broadband Internet นั่นเอง

           ส่วนการพัฒนาเทคโนโลยี Voice-over-IP มีมานับตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของ Internet  แต่ว่าความสามารถการใช้แรงงานไม่เป็นที่ยอมรับ ด้วยเหตุว่าในระยะแรก Internet ยังมีความเร็วน้อยเกินไปต่อการให้บริการ Voice-over-IP ด้วยเหตุนี้จำนวนมากจะเป็นการให้บริการฟรี แต่ว่าจากนั้นก็มีการเปลี่ยนครั้งสำคัญขึ้นในสิงหาคม 2003 ซึ่งส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยรวม โน่นเป็นการเปิดตัวการให้บริการโทรศัพท์แบบ peer-to-peer (P2P) ของบริษัท Skype ซึ่งได้รับการยินยอมรับจากผู้รับบริการอย่างถล่มทลาย     การบรรลุผลของ Skype เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการนำเสนอบริการ Voice-over-IP ที่มีคุณภาพที่ดีมากยิ่งกว่าเดิมมากมาย รวมทั้งที่สำคัญเป็น “ความง่ายสำหรับในการใช้งาน” โดยคนที่อยากใช้บริการสามารถ Download โปรแกรม Skype ขึ้นมาใช้งานได้ข้างใน 5 นาที โดยจะต้องจ่ายรายจ่ายเป็นจำนวนเงิน 10 ยูโร ฝากบัญชีแบงค์ แล้วต่อจากนั้นก็เริ่มการใช้แรงงานได้ ซึ่งถ้าเกิดโทรหาคนที่ใช้ Skype ด้วยเหมือนกันก็ไม่ต้องเสียค่าบริการ หรือถ้าหากโทรเข้าเครื่องโทรศัพท์ปกติก็เสียค่าบริการเพียงแต่ 0.0017 ยูโรต่อนาที แค่นั้น  ซึ่งขณะนั้นผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายบริษัทก็ได้เริ่มให้บริการ Voice-over-IP เหมือนกัน แต่ว่า  Skype ก็รีบปรับปรุงบริการของตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีก แม้ว่าจะมิได้แสดงว่าบริการทุกสิ่งของ Skype นั้นจะดีงามไปหมดทุกๆอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพของการให้บริการที่ยังคงเทียบไม่ได้กับโทรศัพท์บ้านหรือ โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากหากว่าผู้ใช้มีการใช้งานโปรแกรมอื่นๆหรือ Download/upload ข้อมูลที่ได้มาจาก Internet ไปกับการใช้แรงงาน Skype ด้วยก็จะมีผลให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับการปฏิบัติงานของ Skype ห่วยลง ซึ่งปัญหามีต้นเหตุจากโครงข่าย Internet ที่ด้อยประสิทธิภาพ  ซึ่งไม่อาจจะค้ำประกันความเร็วสำหรับเพื่อการใช้งานได้  ในทางตรงกันข้ามเครือข่ายโทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์มือถือใช้งานผ่านช่อง สัญญาณเฉพาะต่อการโทรศัพท์แต่ละครั้งนั้นจะมีคุณภาพที่สูงกว่า แม้กระนั้นเมื่อมีการเพิ่ม Bandwidth ในระดับความเร็วถึง Mbps ปัญหาดังที่กล่าวผ่านมาแล้วก็คลี่คลายลง

           ต่อปริศนาที่ว่า Voice-over-IP จะทำให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมด้านโทรคมนาคมยังไงนั้น คำตอบคงได้ผลสำเร็จกระทบต่อการให้บริการโทรศัพท์รากฐานเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะ โทรศัพท์ทางไกลระหว่างชาติที่คิดค่าธรรมเนียมเหมือนกันกับโทรศัพท์ทางไกลภายในประเทศ ufabet แล้วก็มีทิศทางในอนาคตที่แจ่มชัดว่า Traffic ของโทรศัพท์ระหว่างชาติ จะวิ่งผ่านเครือข่าย IP ของโครงข่าย Mobile Broadband เป็นหลักเมื่อระบบเน็ตเวิร์กโทรศัพท์มือถือแปลงผ่านสู่ระบบ IP โดยบริบูรณ์ และก็สุดท้ายรายได้ (Revenue Model) ของ Operator โทรศัพท์ระหว่างชาติ จะแปรไปอยู่ในมือของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่มี International Gateway  ของตัวเอง จนถึงทำให้ Operator ที่ไม่มีโครงข่าย Mobile ไม่สามารถที่จะหาเงินในแบบเดิมได้อีกต่อไป