สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm ยักษ์ใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม

  • 0 ตอบ
  • 285 อ่าน
Fujifilm ยักษ์ใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2018, 03:17:00 AM »
                ในเหล่ากล้องถ่ายภาพดิจิตอลกับกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราพร้อมกับแนวทางในทั่วโลกนั้น หากไม่อ้างอิงถึงแบรนด์ ฟูจิ ก็อาจเหมือนพร่องอะไรไปบางอย่าง ในสมัยปัจจุบันกล้องฟูจิ ราคาหลากหลายที่มีให้เลือกเฟ้นซื้อหานั้น  ได้เข้านั่งอยู่ภายในใจของผู้ที่ชอบพอการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ประสบผลสำเร็จในสมัยปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีโด่งที่สุดในเมืองไทยพร้อมด้วยลำดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมทั้งทั่วโลกในจำพวกกล้องถ่ายรูปมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะตัดผ่านมากระทั่งถึงจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจพร้อมกับแนวทางนวัตกรรมที่หน่วยงานเก่าอย่าง Fujifilm ต้องหมั่นตะเกียกตะกายพร้อมกับวิ่งให้ทันยุคทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดใจเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1934 ตามแนวทางของรัฐบาลญี่ปุ่นในยุคนั้นที่ปรารถนาจะมีบริษัทฟิล์มเป็นของตนเอง กับทั้งมีการเจริญมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าไปทำส่วนย่อยที่อเมริกาและทั่วโลก และในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจก้าวเข้ามาลุยตลาดแข่งขันกับเจ้าวงการในสหรัฐอเมริกาและในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้แผนการพลิกมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากโกดักได้มากกว่า เป็นผลให้มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 กับทั้งเพิ่มพูนอีกเป็น 60% ในปี 1996 ซึ่งในเวลานั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างขับเคี่ยวกันที่จะเป็นเจ้าตลาดฟิล์ม แต่หารู้ไม่ว่ามีระลอกคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ที่กำลังถั่งโถมเตรียมที่จะเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ
                ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงมรสุมของกิจการค้ากล้องฟิล์มคือตอนปี 2000 ต้นๆ ในระยะเวลาที่บริษัท SONY และ HP เปิดตัวกล้องดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกกับทั้งสามารถเรียกความสนใจจากคนรักการถ่ายรูปไปได้ใช่เล่นเลยทีเดียวในตอนนั้น โดยเฉพาะการเข้ามาของ smart phone และ social media ยิ่งกว่านั้นการบันทึกภาพดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า สบายกว่า และเร็วทันใจกว่ามาก จึงเป็นเหตุให้พฤติกรรมลูกค้าแปรไป  บริษัทอีสต์แมนโกดักในตอนนั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มจะค้างอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง นั่นคือไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่แท้ อย่างนั้นโกดักจึ่งยังคาดว่าจะเก็บความนิยมกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักระยะนึง แต่ฟูจิคิดว่าสุดท้ายนี้แล้ว ดิจิตอลต้องมาแทนที่เนื้อกิจการฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนกับทั้งรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตัดสินใจที่จะนำบริษัทเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
จริงๆ แล้วแล้วกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่ผลิตขึ้นมาได้บนโลกโมเดลแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั่นแหละ ที่อุตส่าห์ผลิตคิดค้นขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่ทำต่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาบั่นทอนธุรกิจหลักคือฟิล์ม ฉีกแนวจากผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่แม้ว่าจะมิได้ริเริ่ม แต่ก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้พัฒนากล้องถ่ายรูปดิจิตอลออกจำหน่ายอย่างจริงจัง ผู้บริหารฟูจิมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่เตรียมเข้าสู่สมัยใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทั้งยังเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตัวเองมีและเคล็ดลับต่างๆ ที่ใช้ถนอมสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยคงทนสภาพความชุ่มชื้น อีกทั้งความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกแบรนด์เครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 กับทั้งขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในยุโรป ซึ่งล่าสุดได้กำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่เพียงแค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech นำมาใช้กับวัสดุทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค และพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง กับโรคความจำเสื่อม ลดงบการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มาก
การอยู่รอดของ Fujifilm ในปัจจุบันนี้ที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคาหลายหลากให้ได้เลือกซื้อของกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับทราบการเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของท่านประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระมัดระวังภัยมากกว่าบริษัทอื่นใด ก็เพราะว่าเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับยี่ห้ออื่นแต่เชื่อว่าท้องตลาดฟิล์มจะสูญพันธุ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฟิล์มเป็นธุรกิจหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเร่งด่วนและสร้างกิจการใหม่ทันท่วงที โชคชะตาก็คงไม่พ้นจากความสิ้นเนื้อประดาตัว และการปรับปรุงภาวะการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดนิ่งเปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หน่วยงานให้เข้ากับภาวะสมัยปัจจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด บ่งชี้ให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งมิเช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm