สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 268 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: สิงหาคม 24, 2018, 04:17:52 AM »
ย้อนกลับในศักราช 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการซื้อขายในวงกว้างแต่เนื่องด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างตั้งใจมากนัก เมื่อบวกกับมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในเวลานั้น ส่งผลให้มีผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือไม่มากนักเมื่อเปรียบกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แม้กระนั้นยุคสมัยก็แปรผันพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงสมัยปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ อำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกขายไปรวมยอดประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ประมาณ 5% โดย 3 ลำดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% เราไปล้วงลึกสถานการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจวบจนถึงเดือนธันวาคมโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือน ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากพ้นไปแค่ 3 เดือน ทันทีที่เข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำเงินรายได้ราว 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยถึงเงินได้รวมใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยรายจ่ายต่างๆ นั้นน้อยกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถทำกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ กลายเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้ย้ายมาวางขายเร็วทันใจขึ้น บวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่จำหน่ายในหลายๆ รัฐ และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถสร้างเงินกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งเงินรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนรายรับจากต่างแดนนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินรายได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม วางขาย iPhone X ซึ่งประมาณการณ์กันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำกำไร ถึงแม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเผยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับจากเริ่มส่งมอบครั้นพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นเงินกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท พอกพูน 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศักราช 2017 หัวเว่ยได้ให้มือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นกรรมสิทธิ์เดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าในเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ เหตุเพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เนื่องมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ปรารถนาไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายแคว้นมี 4G และปี2018 คาดว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองสมรรถนะก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การปรากฏตัวของข่ายงานไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดคะเนกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นจะต้องเฝ้ารอจับตาดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์มือถือเหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและชิงชัยความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่