สวัสดี บุคคลทั่วไป

iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 282 อ่าน
แม้นสมาร์ทโฟนเรือธงของค่าย Apple ในศักราช 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ซึ่งมาพร้อมทั้งดีไซน์และฟีเจอร์แบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็สูงอีกด้วย แต่กระนั้นหลายคนอาจจะลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เปิดตัวเพียง 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักจี่กัน โดยต่อมาอาจจะราวคือรุ่นที่ถูกลืมเลือนเพราะกระแสของ iPhone X แต่ทราบหรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus แม้ว่าจะมีลักษณะหน้าตาไม่แตกต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ ข้าพเจ้าจะนำพาทุกท่านไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
 
ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus เปิดซื้อขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในสหรัฐอเมริกาและวางขายในไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีขนาดตัวเครื่องทัดเทียมกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีสมรรถภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นเดียวกัน แต่ทว่ามีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีด้านหลังคือกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบไม่มีสายได้
 
 ในส่วนของความจุนั้น Apple ก็มีมาให้คัดเพียงแค่ 2 ขนาด เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุมและเร็วเพิ่มขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 แม้ว่าความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาพแสงในขณะนั้น เป็นเหตุให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งแยกเป็น 4-Core ที่สมรรถนะสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอะไร ซึ่งใช้การได้อย่างลื่นไหล ที่น่าสนใจคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบตลอดการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปและเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกขั้นดีเลิศ ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างจะเยอะ หรือไม่ก็ ROV ก็เล่นได้มิสะดุด

 กล้องถ่ายรูปได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งคู่โมเดล ถึงแม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม กลับมีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้มากขึ้น ฉายรูปในสภาพการณ์แสงน้อยได้ดีขึ้น ฉายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพบุคคล เดิม ที่ให้คุณเลือกปรับแสงใบหน้าคนได้มากถึง 5 แบบ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมไฟแฟลชจากจอ Retina HD

                 ในด้านการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีเพียง 30fps) แต่เดี๋ยวนี้คุณเลือกได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ส่วนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จไม่มีสายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง ไม่ต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple เท่านั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จปราศจากสายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้โดยปัจจุบันนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่ทว่าแนะนำว่าจงเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 สรุปว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงไว้ดีไซน์ตัวเครื่องเดิมทีตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานถ่ายรูปน่าจะพึงใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องถ่ายภาพที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเติมแต่งแสงเงาในภาพได้มากหน้าหลายตาแบบตามความต้องการ ทำให้ตอนที่ออก ขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดในตลาดโทรศัพท์มือถือ
 
ส่วนจอที่สวยงามผนวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวเรือธงใด ๆ ในคราวนี้ก็นับว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยื้อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชี้แนะไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกนิดหน่อย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะทวีคูณมากกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8