สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 299 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2018, 07:50:06 AM »
ย้อนกลับไปในศก 2001 มือถือได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าด้วยเหตุที่ความเจริญของเทคโนโลยี อย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างจริงจังมากนัก ครั้นเมื่อบวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลให้มีลูกค้าสมาร์ทโฟนไม่เท่าไหร่นักเมื่อเปรียบกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 อย่างไรก็ตามเวลาก็ผันแปรพร้อมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายต่าง ๆ อำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย
 
 ในศักราช 2017 ยอดรวมส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกจำหน่ายไปรวมราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราว 5% ซึ่ง 3 อันดับของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% เราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งเงินกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมกระทั่งถึงธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน จนกระทั่งก้าวเข้าสู่มีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายได้โดยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งแม้ว่าเงินได้รวมยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่พ.ศ.นี้ย้ายมาวางขายรวดเร็วขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงราคาไม่แพงที่วางขายในหลายๆ ประเทศชาติ และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งเงินได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ด้านเงินรายได้จากต่างประเทศนอกประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จำหน่าย iPhone X ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้กำไร ถึงแม้ว่าจะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลชี้แจงจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินรายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศก 2017 หัวเว่ยได้มอบสมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดแถบอเมริกาเหนือ เนื่องจากฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ด้านตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว เหตุเพราะสมาร์ทโฟนขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

 ทั้งที่ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็จดจ่อไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายแดนมี 4G และปี2018 คาดการณ์ว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การปรากฏตัวของโครงข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประมาณกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นต้องเฝ้ารอเฝ้ามองดูว่าแบรนด์มือถือกลุ่มนี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและต่อสู้ความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่