สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศภายในบ้านสะอาดง่ายๆ ด้วยเครื่องกรองอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 250 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
            ปัจจุบันสภาพอากาศที่เราสูดไปเกือบจะเป็นสภาพอากาศมีแค่ฝุ่นรวมถึงสิ่งสกปรกที่เจือปนเข้ามาในนั้นอาจจะทำให้ป่วยง่ายๆ หรือไม่ก็หายใจไม่ค่อยสะดวกได้ อย่างนั้นการที่ไปท่ามกลางมลภาวะสิ่งสกปรกเราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นหายใจสภาพอากาศเอาสิ่งเหล่านั้นไปในตัวตน
            แต่อย่างไรก็ตามตอนคุณกลับที่อาศัยคุณเป็นไปได้ว่าสมมติอากาศภายในที่พักบริสุทธิ์กว่าข้างนอกจริงอยู่แต่ทว่าก็ยังมีฝุ่นที่มาจากของภายในบ้านที่บางครั้งคุณคงจะคาดว่าก็ทำความสะอาดบ่อยๆ หรือที่เกาะมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายเราที่ไปด้านนอกมาตลอดวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้เราจำเป็นจะต้องอยู่กับมลพิษทุกเมื่อ อย่างนั้นแล้วคุณจึงต้องมีทางเลือกที่มีชื่อว่า เครื่องกรองสภาพอากาศ เอาไว้ในบ้านเพื่อทำให้ที่พักอาศัยสะอาดสะอ้านและยังคุณได้อากาศสะอาดมั่งภายในทุกวัน
            โดยที่ฟอกสภาพอากาศที่ใช้ในบ้านมี 4 แบบด้วยกันยกตัวอย่างเช่น 1. เครื่องฟอกสภาพอากาศลักษณะใช้งานแผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่ตามปกติแล้วคาร์บอนมีคุณสมบัติเพื่อดักจับสิ่งโสโครกบวกกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วเลยได้มีนำมาจัดทำเป็นที่กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานข้างในกระบวนการกรองสภาพอากาศ 2. ที่ฟอกสภาพอากาศแบบใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ที่ฟอกอากาศรูปแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้ในการดักขี้ฝุ่นต่างๆ เพราะว่าประจุไฟฟ้าช่วยล่อฝุ่นผงดีถึงแม้มีอนุภาคเล็กก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นขี้ผงทั่วไป ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศกระนี้เหมาะสมกับคนที่มีเรื่องมีราวเรื่องทางเดินหายใจ หรือว่ามีอาการภูมิแพ้ 3. เครื่องฟอกอากาศประเภทความสามารถสำหรับกรองสูง (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA เป็นเครื่องกรองอากาศมีคุณภาพในการกรองสภาพอากาศสูงมากเพราะตัวที่กรองผลิตเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถกรองสภาพอากาศให้บริสุทธิ์มากถึง 99% อย่างไรก็ตามข้อเสียก็คือไม่สามารถดูดควันหรือว่าดูดซับกลิ่นได้ ถือเป็นที่ฟอกสภาพอากาศที่โดยมากใช้ข้างในสถานพยาบาลหรือโรงงานบางประเภท โดยที่กรองอายุการทำงานยาวนานถึง 4 ปี  4. เครื่องกรองสภาพอากาศประเภทผสม ถือเป็นเครื่องกรองอากาศที่ประเภทผสมผสาน 2 ระบบด้วยกันอาจจะคือประสานใน Carbon และ Ionic หรือว่า HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแล้วแต่ว่าผู้ผลิตตั้งใจให้ที่ฟอกสภาพอากาศใช้งานออกมาด้วยแบบไหน
            เทียบกับรูปแบบเครื่องฟอกสภาพอากาศเท่าที่มีที่พูดถึงคงที่มีทุกคนข้องใจว่าแล้วจะประกอบด้วยแนวทางการเลือกเครื่องกรองอากาศอย่างใดให้เหมาะสำหรับตัวเองที่สุด เริ่มที่ต้องรู้จักอากาศภายในบ้านตัวเองก่อนว่ารูปแบบอากาศรอบๆ บ้านเป็นอย่างไร มีละอองมากหรือไม่ หรือว่ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่าเลยค่อยเลือกใช้ที่กรองอากาศต่อมาที่การคัดเลือกตัวที่ฟอกอากาศโดยที่ตัวมีคุณภาพควรมี  2 หน่วยในเพียงอันเดียวคือ  สกัดขี้ผง ดักฝุ่น และดูดกลิ่นในเครื่องเดียว รวมถึงมีแรงที่จะสามารถดึงอากาศรอบๆ เพื่อไปฟอกพร้อมกับปลดปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออก เช็คดูให้ดีว่าระบบกรองอากาศรวมถึงแผ่นกรองมีกลักษณะประเภทที่เรามุ่งหวังหรือเปล่าพร้อมกับสามารถเอาไปชำระล้างสะดวกหรือไม่รวมทั้งพวกสนนราคาที่กรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะเวลาที่กรองหมดอายุจะหาซื้อหาง่าย หลังสุดก็เป็นการวิเคราะห์ค่าที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็คือค่าในส่วนเทียบประสิทธิภาพในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องกรองสภาพอากาศซึ่งตัวเลขนี้ก็จะเพิ่มขึ้นสมมติว่ามีผู้ใช้งานในห้อง
            ในด้านจากการทำงานไปจนถึงการบำรุงรักษาก็คือ การทำงานของเครื่องกรองสภาพอากาศควรจะปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องใช้งานเอาไว้ก่อนที่เข้าไปภายในห้องเพื่อที่จะอากาศหมดจดก่อน ด้านการเอาใจใส่ทำความสะอาดก็เป็นควรเก็บกวาดที่กรองอย่างน้อยทุก  3 เดือน  โดยการเอามาทำความสะอาดแล้วไปตากให้หายชื้น  สำหรับที่จะทำลายเชื้อโรค  หรือเก็บกวาดจากที่คำแนะนำชี้ตัวไว้ อย่างไรก็ตามส่วนผู้ใช้งานที่ไม่อยากทำความสะอาดประจำ ควรจะเลือกซื้อรูปแบบประจุไฟฟ้า เนื่องจากถึงแม้ว่าจะมูลค่าแพงกว่ารูปแบบอื่นๆแต่ไม่ต้องทำความสะอาดประจำบวกกับดูแลรักษาง่าย
จะเห็นว่าเครื่องฟอกอากาศมีอยู่หลายอย่างไปจนถึงแนวทางในการเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่ยากเหมือนที่คิดไว้นอกจากการบำรุงรักษาความหมดจดก็ง่ายมากอีกเช่นกัน โดยที่ฟอกสภาพอากาศมีเลือกกันหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ ตั้งแต่มูลค่า 2-3พันบาทไปถึง 4-5 หมื่นเลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี