ปัจจุบันนี้ ทุกคน ก็ใช้สมาร์ทโฟนกันทั้งหมด เพื่อว่ามันสามารถทำทุกสิ่งสรรพได้แทบแค่เครื่องเดียว มิว่าจะเป็นการตอบรับอีเมล์ การจัดเก็บข่าว การคัดลอกเรียกเก็บประกาศ การทำกำหนดการการนัดหมาย พร้อมทั้ง รวมถึงการใช้งานเว็บ ยิ่งไปกว่านี้ ก็ยังสามารถรวบรวมความสนุกสนานไว้ได้อย่างมากมายพร้อมด้วยเช่นกัน เช่น การชมหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อพร้อมเครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆ แบบไร้สายได้อย่างสะดวกๆ
เสียแต่ว่าบนโลกใบนี้ ประกอบด้วยสมาร์ทโฟนมากมาย แบรนด์เป็นสิบๆรุ่น ออกมาให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ ได้คัดสรรกัน ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Oppo, Sony, Huawei หรืออื่นๆ อีกอื้อที่ยังจำไม่ได้ณ ตอนนี้ ทว่ามีอยู่แบรนด์นึงที่มือถือของเค้าจะค่อนข้างต่างจากแบรนด์ที่พูดมาถ้วนทั่วในข้างต้น เป็นมือถือจากแบรนด์ที่ได้รับค่านิยมอย่างเต็มเลยทีเดียว นั่นก็คือ iPhone จากแบรนด์Apple นั่นเอง
iPhone ยอมรับว่าเป็นมือถือที่มีความสามารถนานาประการในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านทางแอพพลิเคชั่นซาฟารี ค้นหาแผนที่ รวมถึงการดูภาพยนตร์ ฟังเสียงดนตรี เล่นเกม โดย คุณสมบัติเฉพาะที่เด่นไม่เหมือนใครของ iPhone ก็คือ เป็นมือถือแบบไม่มีปุ่ม แต่จะมีเพียงปุ่มเดียวคือ ปุ่มโฮม (Home) ส่วนการใช้งานอื่นๆ นั่น จะใช้การแตะบนจอแบบมัลติทัช และทำงานอยู่ในระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ Apple พัฒนาขึ้นมาเอง
iPhone รุ่นแรกนั้นได้เปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 2007 หรือตรงกับ พ.ศ. 2550 ซึ่งเครื่องแรกคือเครื่อง iPhone (2G) แล้วก็มีวางจำหน่ายอยู่เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็น iPhone 3G, iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6, 6 Plus, iPhone 6s, 6s Plus, iPhone SE, iPhone 7, 7 Plus ตราบจนเมื่อปลายปี ค.ศ. 2017 หรือ พ.ศ. 2560 Apple ได้วางจำหน่าย iPhone ออกมาควบกันถึง 3 รุ่นนั่นก็คือ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X
แต่วันนี้ เราจะไม่เอ่ยถึง 3 รุ่นใหม่สุดที่ปล่อยหรอกนะ เราจะกล่าวถึงรุ่น iPhone 7 ดีกว่า เนื่องด้วยเป็นรุ่นที่ยังไม่เก่ามาก และ iPhone 7 ค่าตัวขณะนี้ก็ลดมาเยอะมาก เหมาะแก่ใครที่สนใจอยากได้จะเปลี่ยน iPhone ใหม่ ทั้งอยากจะทุ่นเงินในกระเป๋า เราลองมาดูกันสิว่า iPhone 7 จะยังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางรุ่นใหม่ใหม่สุดได้หรือเปล่า
"เก่า" แต่ "เก๋า"
ตัวรุ่น iPhone 7 มาพร้อมทั้ง ชิป Apple A10 Fusion, Quad Core ที่เสริมให้คิดคำนวณได้รวดเร็วทันใจขึ้นกว่าเดิม 40 % และคิดคำนวณกราฟิกได้รวดเร็วขึ้นถึง 50 % มีหน้าจอ 4.7 นิ้ว 1334 x 750 พิกเซล 326 ppi เป็นหน้าจอ Retina HD แบบหน้าจอแสดงสีได้เยี่ยมและมีความจำให้เลือก 3 ขนาด คือ 32, 128 และ 256 GB ส่วนสี จะมีสี Silver, Gold, Rose Gold ทั้งยังมีอีก 2 สีใหม่คือ สี Black (ดำด้าน) และ Jet Black (ดำเงา) รวมทั้งหมด 5 สี ซึ่งสี Jet Black(ดำเงา) จะมีความจุให้เลือกแค่ 128 และ 256 GB เท่านั้น อันนี้ก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนเลยนะจ๊ะ
สำหรับตัวกล้องของ iPhone 7 จะมีกล้องหน้าความคมชัด 7 ล้านพิกเซล f/2.2 ที่สามารถถ่ายเซลฟี่ได้คมชัด และงามยิ่งแม้ในที่แสงน้อยเพราะมี Retina Flash ช่วยจัดแสงให้พอดีกับสภาพแสงโดยรอบซึ่งควรมากๆสำหรับสาวปาร์ตี้ทั้งปวง แต่ใช่ว่าจะสวยในที่มืดอย่างเดียวเท่านั้นนะ เพราะกล้องหลังก็ให้ความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซล โดยแบ่งเป็นเลนส์ Wide มีรูรับแสงขนาด f/1.8 พร้อมทั้งเลนส์ Tele มีรูรับแสงขนาด f/2.8 ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถจับภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย รวมไปถึงสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้ถึงระดับ 4K และใช้แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวงเลยทีเดียว ถือว่า iPhone 7 ทำในส่วนของกล้องหน้าและกล้องหลังออกมาได้ดี ไม่แพ้ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X เลย
นอกเหนือจากนี้ยังมีปุ่ม Home แบบ Taptic Engine ซึ่งเป็นปุ่มที่กดไปแล้วจะมีระบบสั่น เพื่อบอกให้รู้ว่ากดปุ่มแล้ว มีระดับการสั่นที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ iPhone 7 มาพร้อมสรรพระบบกันน้ำและฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% สามารถกันน้ำได้ 30 นาที เมื่ออยู่ในน้ำระดับไม่เกิน 1 เมตร สามารถกันเหงื่อได้ กันฝนก็ยังได้ คือไม่ว่าคุณจะเดินลุยป่าจนเหงื่อผุด ผสมฝุ่นดินที่คละเคล้า หรือเดินเศร้าทำ MV กลางสายฝน iPhone 7 ของคุณก็ยัง Strong !
จะเห็นได้เลยว่าคุณลักษณะของ iPhone 7 ยังพอสู้กับ iPhone รุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายได้อยู่ ไม่ว่าจะเรื่องกล้อง เรื่องระบบซีพียูเป็นต้น แม้กระนั้นก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกซื้อรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ก็อยากให้ตรึกตรองอย่างพิถีพิถันก่อนควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นจะคุ้มกับสิ่งที่จะได้รับหรือไม่ ตรงกับไลฟสไตล์ของคุณหรือเปล่า คุณเท่านั้นที่ต้องตอบคำถามนี้...
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
iphone 7Tags : iphone 7,iphone 7 ราคา,ราคา iphone 7
