สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งโอกาสที่ยังคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 285 อ่าน
ในปี 2018 แม้ Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดถูกอกถูกใจคนติดใจของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมทั้งเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องถ่ายรูปรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสม สนนราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วรุ่นที่ออกมาครั้งก่อนในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังน่าควักกระเป๋าหามาใช้งาน อยู่ไหมในตอนนี้ เราจึงจะมาพิจารณาสเปคและจุดสำคัญให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตกลงใจ       


  •  ลวดลายเฉพาะ


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทออกแบบระดับโลกสร้างสีเฉพาะเจาะจงอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ส่วนสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่แลดูนุ่มลึกราวกับสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องถ่ายรูปข้างหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าพูดถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คงเป็นเรื่องกล้องถ่ายรูป ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องถ่ายภาพข้างหลังคู่พร้อมกับเลนส์ที่ได้รับการยืนยันจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และอีกทั้งได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus อีกด้วย พร้อมกับระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การชักรูปนั้นนิ่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการขยาย โฟกัสได้ไวเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ยังมีโหมดการชักรูปใหม่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติเพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีตรวจจับหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ประเภทเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมกับเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของชักรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมไปถึงการถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องข้างหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปข้างหน้าพร้อมกับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องถ่ายภาพหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การฉายรูปในที่มืดค่ำได้ดีขึ้น เพราะสามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro ซึ่งทาง Huawei ก็เน้นในเรื่องของการใช้งานว่าความรวดเร็วจะไม่เพลาลงครั้นเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยฟีเจอร์ไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ โดยเป็นการนำภาพถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในสมุดภาพมาเสนอเป็นวิดีโอ


  •  มือถือตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นยี่ห้อผู้ประกอบการอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่อย่างเดิมนะฮะ


  •  แบตเตอรี่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และชาร์จเร็วขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นครั้นเมื่อเปรียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,200 mAh ด้าน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่ไม่แพงในทุกวันนี้


ในครั้งแรกที่โหมโรง Huawei P10 และ Huawei P10 Plus สนนราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) สนนราคา 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) มูลค่า 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) สนนราคา 23,900 บาท

 อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro เริ่มมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นไม่แพงลงมาก บางทีหากซื้อพร้อมด้วยโปรโมชั่นราคาก็ต่ำกว่าครึ่งเลยเชียว

 นี่คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในในเวลานี้ หวังว่าจะเป็นผลดีไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา