สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 255 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2018, 01:37:31 AM »
ย้อนกลับในศก 2001 มือถือได้เริ่มมีการซื้อขายในวงกว้างแต่ทว่าด้วยเหตุที่พัฒนาการของเทคโนโลยี เช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างตั้งใจมากนัก ครั้นเมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในตอนนั้น มีผลกระทบให้มีผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือไม่เท่าไหร่นักเมื่อเปรียบกับตลาดมือถือรวมทั้งหมด
 
 แต่กระนั้นเวลาก็แปรเปลี่ยนพร้อมทั้งความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้สบาย
 
 ในปี 2017 ยอดสุทธิส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นสมาร์ทโฟนถูกขายไปรวมทั้งสิ้นราว 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราวๆ 5% ซึ่ง 3 อันดับของยี่ห้อที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือน ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากเลยไปแค่ 3 เดือน ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018ซึ่งสร้างเงินรายได้ราวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งถึงแม้รายได้รวมทั้งสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถทำเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาของผลกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนเวลามาขายเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่จัดจำหน่ายในหลายๆ ดินแดน และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถทำการผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยเงินรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่ม 13% จากคราวเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จำหน่าย iPhone X โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้กำไร แม้นจะมีข่าวซุบซิบออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลชี้แจงตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายรับจาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับแต่เปิดตัวส่งมอบครั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในปี 2017 หัวเว่ยได้มอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แม้กระนั้นเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดโซนอเมริกาเหนือ เนื่องด้วยฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชอบเป็นอย่างดี

 แม้ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็หวังไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ เช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายแคว้นมี 4G และปี2018 หวังว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดสอบศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การแสดงตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า มือถือจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นต้องรอคอยจับตามองดูว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนกลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแข่งขันความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่