สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งโอกาสที่ยังคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 223 อ่าน
ภายในปี 2018 ถึงแม้ว่า Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดโดนใจคนชื่นชอบของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมทั้งเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องถ่ายรูปรู้จักสิ่งของและเลือกการตั้งค่าที่พอเหมาะ ราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนคงจะมีคำถามว่า แล้วรุ่นที่ออกมาเมื่อก่อนในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังควรซื้อหาหามาใช้งาน อยู่ไหมในตอนนี้ ฉันจึงจะมาพิเคราะห์สเปคและจุดดีให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตกลงใจ       


  •  สีสันเฉพาะ


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทออกแบบระดับโลกรังสรรค์สีเฉพาะเจาะจงอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้อารมณ์เป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ด้านสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่ดูนุ่มลึกเหมือนสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกสรรทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องถ่ายรูปหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าเอ่ยถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่คิดถึงเป็นลำดับแรก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องกล้องถ่ายภาพ ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องถ่ายรูปหลังคู่พร้อมกับเลนส์ที่ได้รับการรับรองจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และยังได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus ด้วย พร้อมด้วยระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นนิ่ง เพิ่มความสามารถในการซูม โฟกัสได้ไวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดการจับภาพใหม่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติเพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ชนิดเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของชักรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมถึงการจับภาพตอนค่ำก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวแรกของโลกที่มากับกล้องหน้ากับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องด้านหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การฉายรูปในที่มืดได้ดีขึ้น เนื่องจากสามารถรับแสงได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro ซึ่งทาง Huawei ก็เน้นในเรื่องของการใช้งานว่าความรวดเร็วจะไม่เพลาลงเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ซื้อ
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยฟีเจอร์ไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ โดยเป็นการนำภาพถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในสมุดภาพมาเสนอเป็นวิดีโอ


  •  โทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นยี่ห้อผู้สร้างอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่อย่างเดิมนะฮะ


  •  แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และชาร์จไวขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุใหญ่ขึ้นครั้นเมื่อเปรียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,200 mAh ส่วน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่แสนจะถูกในตอนนี้


ในการเริ่มต้นที่เปิดตัว Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) สนนราคา 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) มูลค่า 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) มูลค่า 23,900 บาท

 แต่ว่าภายหลังที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro เปิดตัวมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นถูกลงมาก บางหนหากว่าซื้อพร้อมกับโปรโมชั่นราคาก็ลดน้อยลงกว่าครึ่งเลยเชียว

 นี่คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในระยะนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา