สวัสดี บุคคลทั่วไป

ทำความรู้จักมักคุ้น Xiaomi มังกรหนุ่มแห่งกลุ่มเทคโนโลยี

  • 0 ตอบ
  • 254 อ่าน
ปฎิเสธไม่ได้ว่าณ เวลานี้ โทรศัพท์มือถือจากแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนมาแรงมากไม่ใช่เล่น และเชื่อว่าในณ เวลานี้หลายๆ คนคงจะคุ้นชินชื่อกับ Xiaomi (เสี่ยวมี่)หนึ่งในยี่ห้อสมาร์ทโฟนลำดับต้นๆ ของเมืองจีนที่ข้ามน้ำมาทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยจุดแข็งในเรื่องสมรรถนะการใช้งาน ในมูลค่าถูก แถมมาในดีไซน์พรีเมี่ยมอีกต่างหาก แม้ว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกมาไม่นานก็นับว่าบรรลุผลและที่สำคัญยังทำให้ดีขึ้นไปในสินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกด้วย เราไปทำความรู้จักมักจี่กับ Xiaomi ให้เพิ่มมากขึ้นดีกว่า
 
 ย่างก้าวแต่เดิมของ Xiaomi เริ่มแรกในเดือน เมษายนปี 2010 โดย Lei Jun (เหลย จุน) อดีตซีอีโอของ Kingsoft ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นทางด้านเอกสารออฟฟิศกลุ่ม Word, Excel และ PowerPoint ช่วงเริ่มต้น เสี่ยวหมี่ ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตนเอง แต่เริ่มจากเป็นฝ่ายทำรอมแบบ After Market ให้โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ในนาม MIUI (อ่านว่า "Me You I")
 
 ปี 2011 Xiaomi ริเริ่มขยายตัวเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเองด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Mi One ออกจัดจำหน่ายในเมืองจีนและสร้างความฮือฮา เพราะว่าเป็นสมาร์ทโฟนสเปกสูงในราคาถูก จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้แค่หลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
 ในปีต่อมาก็ปล่อย Mi2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในประเทศจีนหมดใน 3 นาที จนทำให้ทางบริษัทรับรู้ว่าผลิตผลของตัวเองนั้นโดนใจผู้ใช้ในวงกว้างแค่ไหน
 
 และในปี 2014 Xiaomi ก้าวข้ามแนวคิดว่ามือถือเมืองจีนทำเพื่ออาหมวยอาตี๋เท่านั้น โดยริเริ่มออกไปทำตลาดโลก โดยริเริ่มจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยการเปิดประวัติศาตร์ในการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่บนระบบ E-commerce ที่สามารถขายหมดได้เพียงสองนาทีแรกของการเปิดขาย เมื่อได้รับปฏิกิริยามากเกินความคาดหมาย Xiaomi ไม่เพียงสาวเท้าต่อไปเรื่อยๆ เหมือนแผนธุรกิจของหลายๆยี่ห้อในปัจจุบันที่มุ่งหวังการครองตลาดเฉพาะภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเท่านั้น เช่น ประเทศในอาณาบริเวณทวีปเอเชีย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศไต้หวัน ประเทศอินเดีย แต่ว่ายังตั้งใจไปถึงการยึดครองตลาดโลกอย่าง ประเทศตุรกี ประเทศรัสเซีย ประเทศบราซิล พร้อมทั้ง ประเทศแม็กซิโก เพื่อเน้นว่าสินค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนก็มีคุณภาพที่ระดับโลกยกนิ้วให้
 
 ข้อดีของมือถือ แท็บเล็ต และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของทาง เสี่ยวหมี่ จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์เมื่อเทียบเคียงกับราคาแล้วคุ้มค่ามาก ตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟน Mi8 ตัวตัวหลักช่วงนี้ คุณจะได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ชิป Snapdragon Snapdragon845, RAM 6/8 GB, ROM 64/128/256 GB กล้องถ่ายรูปข้างหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 MP พร้อมระบบถ่ายด้วย AI ด้านกล้องถ่ายภาพข้างหน้า 20 MP รองรับสแกนลายนิ้วมือและ 3D Face Unlock รวมไปถึงมี Dual GPS เพื่อความเที่ยงตรง และรวดเร็ว ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 3400mAh ในราคาประมาณหมื่นบาทกลาง ๆ เท่านั้น
 
 ในส่วนฮาร์ดแวร์ Xiaomi จัดทำไปไกลกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือTabletมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว ตัวอย่างเช่น
 
 Mi TV 2 เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว สนนราคา 3,999 หยวน (ราว 21,000 บาท) พร้อมกับชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว สำหรับใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์บันเทิงมากมาย
 
อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอติดสอยห้อยตามเทรนด์ Wearable Device ด้วย Mi Band ที่เป็นอุปกรณ์ตรวจวัดค่าสุขภาพอนามัยแบบใส่ประจำตัว เพื่อสังเกตเป้าหมายการดำรงชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
 
 และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัสดุอุปกรณ์อย่างหูฟัง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง, เครื่องฟอกอากาศ เป็นต้น
 
 ปี 2017 ที่ผ่านมา จัดได้ว่าเป็นปีที่ดีของ เสี่ยวหมี่ เนื่องจากในระยะเวลาไตรมาสสุดท้ายของปี ถึงแม้ยอดขาย น้อยลงทั่วโลก 6.3% แต่ว่าหากเทียบเคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า Xiaomi มียอดจำหน่ายมากขึ้นถึง 96.9% เลยทีเดียว โดยมียอดจำหน่ายมือถือเพิ่มขึ้นถึง 75% และขยายตลาดไปสู่ระดับสากลด้วยการดันก้าวเข้าสู่ตลาดประเทศสเปน และสร้างยอดขายมหาศาลในตลาดประเทศอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย และโซเวียต โดยในปี 2017 นี้ Xiaomi เป็นผู้ประกอบการอันดับ 5 ของโลกที่ผลิตสมาร์ทโฟนมากที่สุด และเป็นอันดับ 4 ของโลกในด้านยอดขาย ด้วยการสร้างยอดสุทธิมากกว่า 1แสนล้านหยวน เลยทีเดียว
 
 โดย Lei Jun ผู้บุกเบิก และ CEO ของ Xiaomi ป่าวร้องว่าพันธกิจสำหรับปี 2018 นี้ จะดำรงฐานะผู้ก่อตั้งในตลาดโลกและเป็นอันดับ 1 ในมาตุภูมิอย่างประเทศจีนใน 30 เดือน
 
 จะเห็นได้ว่าโมเดลการทำธุรกิจของ Xiaomi นั้น ไม่เคยที่จะอยู่กับที่และชอบอกชอบใจกับผลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ยังคงคืบหน้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ไลน์ของโทรศัพท์มือถือ แต่ยังรวมถึงสมาร์ทแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ด้วย หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งวิธีให้ท่านผู้อ่านที่กำลังประกอบธุรกิจชี้ทางเป็นแรงผลักดันและประยุกต์ใช้กันนะครับผม

Tags : Xiaomi,ราคา Xiaomi,เสี่ยวหมี่