สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม

  • 0 ตอบ
  • 237 อ่าน
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2018, 01:38:14 PM »
                ในเหล่ากล้องดิจิตอลพร้อมทั้งกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบในบ้านเราพร้อมกับแนวทางในทั่วโลกนั้น หากไม่เปรยยี่ห้อ ฟูจิ ก็อาจคล้ายพร่องสิ่งไรไปบางอย่าง ในปัจจุบันนี้กล้องฟูจิ ราคาหลายหลากที่มีให้เลือกซื้อหานั้น  ได้ย่างเหยียบนั่งอยู่ในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง จัดว่าเป็นแบรนด์ที่สำเร็จในปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีสูงที่สุดในประเทศไทยและลำดับต้นๆในเอเชียรวมทั้งทั่วโลกในกลุ่มกล้องถ่ายภาพมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะข้ามมากระทั่งถึงจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าเกลียวคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจพร้อมด้วยแนวทางนวัตกรรมที่บริษัทเก่าก่อนอย่าง Fujifilm ต้องมานะบากบั่นตะเกียกตะกายพร้อมทั้งวิ่งให้มีไหวพริบอยู่เสมอ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดใจเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ริเริ่มตั้งขึ้นเมื่อปี 1934 ตามหลักของรัฐบาลญี่ปุ่นในระยะเวลานั้นที่มุ่งหมายจะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง และมีการเจริญเติบโตมาอย่างสม่ำเสมอตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าไปทำส่วนย่อยที่อเมริกาและทั่วโลก กับทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตัดสินใจก้าวย่างเข้ามาบุกท้องตลาดงัดข้อกับเจ้าวงการในสหรัฐฯอีกทั้งในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้แผนการกลับด้านมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากโกดักได้มากกว่า ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 พร้อมทั้งเพิ่มขึ้นอีกเป็น 60% ในปี 1996 ซึ่งขณะนั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างแข่งขันกันที่จะเป็นเจ้าตลาดฟิล์มถ่ายภาพ แต่หารู้ไม่ว่ามีลูกคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเตรียมที่จะเข้าแทนอยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงความปั่นป่วนของธุรกิจกล้องฟิล์มคือระยะปี 2000 ต้นๆ ในขณะที่บริษัท SONY กับ HP เบิกฤกษ์กล้องดิจิตอลขึ้นมาเป็นทีแรกกับทั้งสามารถร้องเรียกความสนใจจากคนรักการบันทึกภาพไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในช่วงนั้น เป็นพิเศษการเข้ามาของ smart phone และ social media อีกทั้งการบันทึกภาพดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า สบายกว่า และรวดเร็วทันใจกว่ามาก จึงทำให้พฤติกรรมผู้ซื้อผันไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักในตอนนั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายภาพจะดำรงอยู่ได้อีกพักหนึ่ง นั่นคือไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่นอน ต่อจากนั้นโกดักจึงยังคิดว่าจะเก็บความนิยมกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักพักนึง แต่ฟูจิคิดว่าผลสุดท้ายแล้ว ดิจิตอลต้องมากัดกินเนื้อธุรกิจการค้าฟิล์มถ่ายรูปอย่างแน่นอนและรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตกลงใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
อันที่จริงแล้วกล้องดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาได้บนโลกเครื่องแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั่นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างเนรมิตขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่ดำเนินต่ออย่างเอาจริงเอาจัง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาทำลายกิจการค้าหลักคือฟิล์ม ต่างจากระดับผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่แม้ว่าจะไม่ได้บุกเบิก แต่ก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้พัฒนากล้องถ่ายภาพดิจิตอลออกสู่ตลาดอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่เตรียมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อีกทั้งเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตัวเองมีและเคล็ดลับต่างๆ ที่ใช้ดูแลรักษาสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาดัดแปลงกับสินค้าเครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรม collagen ที่ช่วยจัดเก็บสภาพความชุ่มชื้น พร้อมด้วยความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกแบรนด์เครื่องสำอางค์ภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมทั้งวางขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันทำเงินให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่เพียงแค่นั้น Fujifilm ยังนำนวัตกรรม Digital Camera Tech นำมาใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค พร้อมกับพัฒนาการผลิตยารักษาโรคมะเร็ง และโรคความจำเสื่อม ลดงบการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มากที่สุด
การอยู่รอดของ Fujifilm ในปัจจุบันที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคาหลายหลากให้ได้เลือกสรรซื้อหากันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับทราบการเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของผู้นำองค์กร Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังภัยมากกว่าบริษัทอื่นใด โดยเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับแบรนด์อื่นแต่เชื่อว่าวงการฟิล์มจะสูญพันธุ์อย่างเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฟิล์มเป็นธุรกิจการค้าหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเร็วและสร้างกิจการใหม่ทันท่วงที ชะตากรรมก็คงไม่พ้นจากการหมดเนื้อหมดตัว และข้อแก้ไขภาวะจากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดนิ่งกับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์องค์กรให้เข้ากับภาวะประจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด เสนอให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดอยู่กับที่ไม่งั้นเราก็จะไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภายภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm