เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเป็น 1 ในต้นสายปลายเหตุ 4 ที่มุนษย์อยากได้สำหรับในการดำรงชีพเพื่อปกปิดร่างกายและก็ให้ความอบอุ่น ความรุ่งโรจน์ของคนเราทำให้เสื้อผ้ารวมทั้งอาภรณ์เปลี่ยนไปตามช่วง เสื้อผ้ายังบ่งถึงรูปแบบของผู้ใส่ได้ด้วย ได้แก่ ฐานะ, เชื้อชาติ, อื่นๆอีกมากมายการพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละช่วงต่างกันมากมาย ขึ้นกับต้นเหตุหลายๆอย่าง เป็นต้นว่า การบ้านการเมือง เศรษฐกิจ อากาศ อื่นๆอีกมากมาย ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเจนพนันบอลออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปี คริสต์ศักราช 1920 - 1930 หรือเรียกว่ายุค แฟลปเปอร์ (Flapper) เพศหญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรก และก็ข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาพเศรษฐกิจล่มจม หญิงจะต้องออกมาจากบ้านเพื่อปฏิบัติงานหาเลี้ยงตัว ด้วยเหตุดังกล่าวเสื้อผ้าที่ใส่ย่อมแปรไปเพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้ใส่เยอะขึ้นเรื่อยๆ กางเกงก็เลยเป็นที่ชื่นชอบ ตั้งแต่สมัยแฟลปเปอร์เป็นต้นมา แฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล ด้วยเหตุว่าการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกและก็ทิศตะวันออกเป็นไปได้เปิดกว้างเยอะขึ้นเรื่อยๆ มีการไปมาหาสู่กัน แฟชั่นของโลกตะวันตกก็เลยเข้ามามีหน้าที่กับโลกทิศตะวันออก ได้แก่ คนประเทศไทยรณรงค์ให้สวมหมวก หรือ หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพื่อความเป็นสากล ลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของแต่ละช่วง เรียกว่า สไตล์ (Style) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวแตกต่างกัน ได้แก่ บางบุคคลถูกใจแต่งตัวสไตล์ พั้งค์ (Punk) หรือเด็กผู้หญิงๆถูกใจสไตล์ชวนมอง ที่ฝรั่งเรียกว่า ราซี่ (Racy or Provocative) ส่วนคำว่า เทรนด์ (Trend)เป็นแฟชั่นปัจจุบันที่กำลังได้รับความนิยม