สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 293 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: ตุลาคม 06, 2018, 03:54:03 PM »
ย้อนกลับในศักราช 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการซื้อขายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องจากว่าพัฒนาการของเทคโนโลยี อาทิเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก ครั้นเมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในเวลานั้น มีผลให้มีผู้ซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เท่าไหร่นักเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดมือถือรวมทั้งหมด
 
 ถึงกระนั้นเวลาก็แปรเปลี่ยนพร้อมด้วยการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงปัจจุบัน โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลับเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้สื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้สบาย
 
 ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกขายไปรวมประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 ลำดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% เราไปเจาะใจสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจวบจนถึงเดือนธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยเพียง 3 เดือน พอก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งทั้งๆ ที่เงินรายได้รวมทั้งสิ้นใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยรายจ่ายต่างๆ นั้นน้อยกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งกำเนิดของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนเวลามาขายไวขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นมือถือซัมซุงสนนราคาไม่แพงที่ค้าในหลายๆ แว่นแคว้น และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถทำผลกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งรายรับรวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท ขยาย 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นเดียวกัน ด้านรายรับจากต่างประเทศนอกสหรัฐฯคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จัดจำหน่าย iPhone X โดยประมาณการณ์กันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ได้กำไร ถึงแม้จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลแจ้งให้ทราบตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายรับจาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับแต่เริ่มส่งมอบครั้นพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศักราช 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่กระนั้นตอนนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดแถบอเมริกาเหนือ ก็เพราะว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ด้านตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว เนื่องจากมือถือระดับไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ว่ายอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็หวังไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ เช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายมณฑลมี 4G และปี2018 ประมาณการว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของข่ายงานไร้สาย 5G ทำให้มีการประเมินกันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกโดยจำต้องเฝ้ารอจับตามองดูว่าแบรนด์มือถือกลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดขายและช่วงชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่