สวัสดี บุคคลทั่วไป

ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 302 อ่าน
แม้กระนั้นมือถือตัวหลักของค่าย Apple ในปี 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมทั้งดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่ามูลค่าก็แพงเหมือนกัน ถึงกระนั้นหลายคนอาจจะหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เปิดตัวแค่ 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักคุ้นกัน ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะเสมือนคือรุ่นที่ถูกลืมเพราะกระแสของ iPhone X แต่ทราบหรือไม่ว่า iPhone 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus ถึงแม้นจะมีลักษณะหน้าตาไม่แตกต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ ข้าพเจ้าจะนำพาทุกคนไปทำความรู้จักมักคุ้นกับมือถือรุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
 
ไอโฟน 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจำหน่ายที่เมืองไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีขนาดตัวเครื่องพอกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่มีสมรรถภาพในการกันน้ำ กันละออง เช่นเดียวกัน แต่กระนั้นมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังคือกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบปราศจากสายได้
 
 ในส่วนของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้คัดแค่เพียง 2 ความจุ ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วเพิ่มขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 ถึงแม้ความละเอียดหน้าจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสีหน้าจอให้ตรงกับสภาวะแสงตอนนั้น เป็นเหตุให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core จำแนกเป็น 4-Core ที่ประสิทธิภาพสูง และอีก 2-Core ใช้เวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอะไร โดยใช้งานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าศึกษาคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วไปหรือเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกอันดับดีเลิศ ยกตัวอย่างเกมรถแข่งอย่าง Need for Speed ที่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือ ROV ก็เล่นได้ไม่ชะงัก

 กล้องถ่ายภาพได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งคู่โมเดล แม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แต่ทว่ามีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้เยอะขึ้น ถ่ายภาพในสถานการณ์แสงน้อยได้ดีขึ้น ชักรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้มนุษย์เราเลือกสรรปรับแสงหน้ามนุษย์ได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายรูปด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมแฟลชจากหน้าจอ Retina HD

                 ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพความเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูละมุน ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีเพียง 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกสรรได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดโดยทั่วไป ท่อนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า มิจำต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไร้สายจาก Apple ออกมาขายในเร็ว ๆ นี้โดยปัจจุบันนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่ทว่าแนะนำว่าจำต้องเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 สรุปว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้จะคงไว้ออกแบบตัวเครื่องแต่เดิมตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยเฉพาะในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชื่นชอบฉายรูปน่าจะพึงพอใจการรวมกันของคุณลักษณะของกล้องถ่ายภาพที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยตกแต่งแสงเงาในภาพได้ต่างๆนาๆรูปแบบตามความอยาก เป็นเหตุให้ตอนที่ออก ออกขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในท้องตลาดมือถือ
 
ส่วนจอที่ต้องตาต้องใจบวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่ไม่เป็นรองโทรศัพท์มือถือตัวตัวท็อปใด ๆ ในในเวลานี้ก็ถือว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยื้อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกสักหน่อย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8