ถ้าว่าจักพูดถึงเรื่องการแต่งเติมบ้านนั้น มีส่วนผสมมากมายหลายอย่างเลยเชียว อาทิเช่นในเรื่องของความสมดุลย์ โดยนั้นก็คือการสมมาตร ซึ่งการสมมาตรก็จะถูกแยกย่อยเป็นการสมมาตรที่ถูกส่วน และอสมมาตร ทว่าถึงแม้ว่าสัดส่วนที่ว่าไม่สมมาตรกันนั้น มันก็ช่วยปลูกสร้างจินตนาการ ไม่ก็สร้างอารมณ์จิตใจต่างๆ ไปอีกแบบนั่นเอง ยิ่งไปกว่านี้ความสมดุลย์ยังหมายถึงความหนักเบา และสัดส่วนของสิ่งของที่จะอยู่ในห้องเช่นกัน อาทิ แจกัน รูปถ่าย คบไฟ หรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อีกด้วย ถัดมาก็จะเป็นในเรื่องของสี ซึ่งแต่ละสี ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงควรเป็นสีที่สัมพันธ์กันกับเครื่องเรือนต่างๆ ที่อยู่ในห้องหับด้วย เและส่วนประกอบอีกอย่างที่สำคัญก็คือต้องมีโฟกัส หรือศูนย์กลางความสนใจ ซึ่งครั้นย่างเท้าเข้าไปในที่พักอาศัย หรือเข้าไปในห้องใดห้องหนึ่งแล้ว จะมองเห็นอะไรเป็นอันดับแรก แต่กระนั้นก็อย่าลืมว่ามันจะต้องออกมา ผสมกลมกลืนกับห้องด้วยนะ
และครั้นเมื่อตกแต่งบ้านเรือนทั้งที คุณก็ควรดูด้วยว่าคุณจะจัดวางสิ่งไรไว้ที่ใด ใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างใด สีอะไร เพื่อเข้ากับห้องแต่ละห้อง แต่ว่าวันนี้ข้าจะเอ่ยถึงโคมไฟ เนื่องจากว่าโคมไฟเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างบรรยากาศ ให้ความรู้สึก ให้ความรู้สึกกับผู้อยู่อาศัยได้มากที่สุด โดยโคมไฟในช่วงปัจจุบันนี้ก็จะมีรูปร่างที่แปลกแยกกันออกไปหลายหลากแบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นแบบโมเดิร์น โดยโดยมากใช้วัสดุที่ดูเข้ายุค เช่น สเตนเลส, เหล็กชุบโครเมี่ยม, แก้ว เป็นต้น หรือจะเป็นสไตล์ตามสมัย ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้นั้นต่างๆ นาๆมาก ใช้ได้เกือบทุกอย่างเลยทีเดียว แต่ว่าสิ่งที่จะผิดแผกกับสไตล์โมเดิร์นออกไปก็คือการออกแบบที่ต้องดูตามสมัยนิยม ก็เพราะว่าสไตล์ร่วมสมัยเป็นแบบที่ค่อนข้างกว้างขวางมาก จึงทำให้รูปแบบนี้มีความหลากหลายเหมือนกัน อีกทั้งสไตล์คลาสสิก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสไตล์ที่ผูกขาดกับวัตถุที่หรู เช่น แก้วครีสตัล, ทองเหลือง และเหล็กอิตาลี เป็นต้นส่วนการออกแบบจะเน้นหนักรูปแบบที่มีลวดลายและรูปทรงที่ดูตระการตา เพื่อให้เข้ากับงานธีมคลาสสิกนั่นเอง
พวกเรามารู้จักชนิดของ
โคมไฟกันเลยดีกว่าว่ามีสิ่งไรกันบ้าง จะได้ทราบว่าจะเอาไปแต่งเติมที่ห้องไหน โดยเริ่มกันที่ประเภทแรกคือ โคมไฟแขวนฝ้าเพดาน โดยมีรูปร่างเป็นดวงประทีปทั้งดวงเดียว และหลายดวงมาจัดวางเข้าด้วยกัน มีทั้งลักษณะโคมคว่ำลง และหงายขึ้น พร้อมกับสายห้อยที่ทำด้วยเชือกบ้าง ลวดสลิงบ้าง รวมถึงการใช้สายโซ่ในกรณีดวงไฟมีขนาดใหญ่ ซึ่งควรให้เลือกใช้ตามความเหมาะเจาะ พร้อมกับสไตล์ที่ต้องการ อย่างไรก็ดีต้องระวังสักหน่อยหากเลือกใช้โคมคว่ำ เพราะอาจเป็นเหตุให้ไฟแยงตาได้ ในกรณีที่เราต้องใช้สายตานานมาก ในตำแหน่งนั้น
หลังจากนั้น ประเภทนี้มั่นใจว่าทุกบ้านต้องมี นั่นก็คือ โคมไฟตั้งโต๊ะ ใช้เพื่อตั้งบนโต๊ะข้างเก้าอี้นวมยาวชุดรับแขก หรือโต๊ะ และตู้หัวเตียง หรือจะเป็นโต๊ะทำงาน โต๊ะทำการบ้าน สำหรับไว้ทำงาน ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือ โดยลักษณะของ
โคมไฟตั้งโต๊ะจะเป็นเทียนส่องแสงจรัสขึ้นฝ้าเพดานและส่องแสงลงพื้น ถัดจากโคมไฟตั้งโต๊ะคือ โคมไฟตั้งพื้น ซึ่งจะละม้ายคล้ายคลึงกับโคมไฟตั้งโต๊ะเลย เพียงแต่มีความสูงของขาที่สูงกว่า เพื่อสำหรับวางตั้งลงกับพื้น ส่วนการให้แสงไฟของดวงโคมนั้นมีทั้งส่องขึ้นฝ้าเพดาน และส่องลงพื้นทำนองเดียวกับดวงไฟตั้งโต๊ะ
ต่อจากนั้นคือ ไฟกิ่งติดผนัง โดยมีรูปพรรณเป็นเขาและแท่นยึดติดกับฝาผนัง ส่วนดวงไฟมีทั้งส่องขึ้นเพดาน และส่องแสงสว่างทั้งดวง อีกทั้ง โคมไฟฝังฝ้าเพดาน ที่พวกเราเรียกกันคุ้นหูก็คือโคมไฟดาวน์ไลท์ โดยมีทั้้งเส้นผ่าศูนย์กลาง 2, 4, 6, 8 นิ้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต้นแบบที่บริษัทผลิตออกมาจัดจำหน่ายและอีกทั้งมีชนิดสี่เหลี่ยมด้านเท่าด้วย ต่อจากนั้นคือโคมไฟฝังผนัง ใช้สำหรับฝังผนังคล้าย กับไฟดาวน์ไลท์ ส่วนมากแล้วมักจะติดตั้งแนวทางเดิน หรือบันไดที่ต้องการให้แสงสว่างในแนวทางเดิน โคมไฟชนิดนี้จะมีฝาครอบเรียบร้อยเพื่อความสะดวกเพราะถูกติดตั้งอยู่ต่ำ
ยิ่งไปกว่านี้ยังมีแบบโคมไฟฝังพื้น ซึ่งก็เหมือนโคมไฟฝังผนังดังเดิมแต่เปลี่ยนมาฝังที่พื้นแทน กลุ่มคนส่วนใหญ่มักใช้ติดตั้งบริเวณทางเดินเพื่อสร้างบรรยากาศเช่นเดียวกับไฟฝังฝาผนัง และสุดท้ายนี้ โคมไฟส่องภาพ ลักษณะก็คือจะคล้ายไฟกิ่งเพียงแต่สามารถปรับองศาของโคมได้ ซึ่งบางรุ่นก็เป็นก้านโผล่สามารถปรับได้อย่างอิสระเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
พอมาลองคิดดูแล้ว โคมไฟมีหลากหลายสไตล์มากมายจริงๆ เช่นนั้นต้องเลือกให้ดีที่สุด เพื่อให้เข้ากับโทนสี เฟอร์นิเจอร์ และห้องหับที่คุณประสงค์จัดดีไซน์การจัดวางโคมไฟ นี่ยังไม่กล่าวถึงเรื่องการเลือกโทนสีของหลอดไฟที่ใช้ ยังไงก็ขอให้ตกแต่งบ้านพักอาศัยด้วยโคมไฟ โดยเลือกที่ตั้งที่ดีที่สุดในการติดตั้ง เพื่อให้ได้บ้านที่พอดี แสงสว่างสวยสมประสงค์นะจ๊ะ
Tags : โคมไฟ,โคมไฟตั้งโต๊ะ,โคมไฟ ราคา