สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องพิมพ์ดีด : M

  • 0 ตอบ
  • 202 อ่าน
เครื่องพิมพ์ดีด : M
« เมื่อ: ตุลาคม 23, 2018, 07:15:23 AM »
เครื่องพิมพ์ดีด เป็นเครื่องจักรกลที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้แทนการเขียนด้วยมือ แทงบอล กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความสบายสำหรับเพื่อการอ่าน และก็การเปิดเผยแพร่ มีลักษณะเป็นแป้นอักษร แล้วก็ใช้คานชนลงบนผ้าคาร์บอน ทับลงบนกระดาษอีกที่หนึ่ง เดี๋ยวนี้ แทงบอลโลก ปรับปรุงเป็นเครื่องพิมพ์ดีดกระแสไฟฟ้า สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้มากขึ้น และก็ออกแรงกดลดลง

สมัยก่อน

     เครื่องพิมพ์ดีดเครื่องแรกเป็นแบบภาษาอังกฤษสร้างโดยวิศวกรชื่อเฮนรี่ ไม่ลในอังกฤษ ลงบัญชีสิทธิบัตรเมื่อ พุทธศักราช 2237 ในตอนแรกนั้นแป้นอักษรมีถึง 7 แถว 84 ปุ่ม ซึ่งแป้นอักษรนี้ถูกเรียกในขณะนี้ว่าแบบ 2 ชั้น เนื่องด้วยมีแถวแล้วก็ปุ่มมากมายเป็น 2 เท่าของแป้นอักษรรุ่นเดี๋ยวนี้ที่แต่ละปุ่มจะมี 2 ตัวหนังสือ ถัดมาได้มีการสร้างปุ่ม Shift และก็รวมอักษร 2 ตัวให้อยู่ในปุ่มเดียว ก็เลยทำให้แป้นอักษรแบบ 2 ชั้นไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป

ตอนนี้

ถัดมาได้มีการสร้างสรรค์เครื่องพิมพ์ดีดกระแสไฟฟ้าในเวลาถัดมาโดยแป้นอักษรจะเหมือนแป้นคีย์บอร์ด มี Shift,Shift Lock,Alt มีตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก (ใช้ปุ่มShift,Shift Lockในภาษาอังกฤษ) มีอักษรสองแถว มีปุ่มลบ (CORRECT) ในเรื่องที่พิมพ์ไม่ถูกโดยจะใช้แนวทาง ใช้เทปติดน้ำหมึกออกมาจากกระดาษ

ในประเทศไทย

    นายเอดวิน แมคฟาร์แลนด์ ผู้ช่วยส่วนพระองค์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเครื่องพิมพ์ดีดภาษาอังกฤษเป็นเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย แต่ว่าเหตุเพราะภาษาไทยมีสระรวมทั้งวรรณยุกต์มากมาย ก็เลยจำเป็นต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีดที่มีแป้นมากยิ่งกว่าประเภทอื่น เป็นแบรนด์ สมิทพรีเมียร์ เมื่อ พุทธศักราช 2438ถัดมา แพทย์ ยอร์ช บี แมคฟาร์แลนด์ (พระบางทีอาจวิทยาคม) ได้หารือและก็ค้นคว้ากับพนักงานบริษัท 2 คนเป็น นายความเจริญรุ่งเรือง มากมายประยูรวงศ์ รวมทั้งนายทองเลิศ เกษมณี (กิมโชคดี) ใช้เวลา 7 ปีก็วางคีย์บอร์ดใหม่เสร็จ ใน พุทธศักราช 2474 สามารถพิมพ์ได้ถนัดที่สุดแล้วก็เร็วทันใจที่สุด ให้ชื่อว่าแบบ "เกษมณี" แล้วก็ใช้มาจนกระทั่งในเวลานี้ ถัดมามีการศึกษาเล่าเรียนพบว่า เครื่องพิมพ์ดีดแบบเกษมณียังมีข้อเสีย รวมทั้งได้มีการคิดวางคีย์บอร์ดใหม่ ใช้ชื่อว่า "ปัตตะโชติ" ซึ่งที่ประชุมศึกษาค้นคว้าแห่งชาติพิจารณาแล้วว่าสามารถพิมพ์ได้เร็วกว่าแบบเดิมราว 25.8%