ถ้าหากพูดถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็คงจะไม่เอ่ยถึงยี่ห้อ Samsung ไม่ได้ก็เพราะว่าอยู่ในตลาดของโทรศัพท์เคลื่อนที่มาอย่างยาวนาน Samsung เองก็ได้พยายามปรับปรุงจุดบกพร่องของโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนเองก่อนออกขายในธุรกิจตลอด รวมทั้งการปรับปรุงรวมถึงพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่เสมอเพื่อจะไม่ให้ด้อยกว่าคู่แข่งส่งผลให้ Samsung ยังคงสามารถรักษาคุณภาพรวมถึงส่วนแบ่งตลาดของตนเองมาได้จนถึงตอนนี้
            ในส่วนของตัวโทรศัพท์มือถือเอง Samsung ได้ถูกผลิตออกมาหลากหลายซีรีย์อย่างเช่น S Series, Note Series, A Series และ J Series โดยในแต่ละรุ่นก็จะมีจุดแข็งที่ไม่เหมือนกันไป โดยจุดนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ช่วยให้ Samsung กลายเป็นการเป็นเจ้าตลาดโทรศัพท์มือถือ เพราะสามารถผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกมาอย่างตอบโจทย์กับหลายๆ ตลาดนั่นเอง โดยที่แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไรบ้างมาดูกัน
มาดูเครื่องแรก เป็น Galaxy S Series โดยที่ในอันนี้นับว่าเป็นประเภทตัวท็อปสำหรับ Samsung เลยก็เป็นไปได้ เพราะมีคุณสมบัติสูง ไซต์เครื่องพอเหมาะไม่เทอะทะและไม่เล็กเกินควรมีให้เลือกซื้อ 2 สัดส่วน จอแสดงผลเกรด FHD+ ถึง Quad HD+ ดีไซน์รอบๆเครื่องออกขายดูดีมีความพิเศษ สามารถกันน้ำป้องกันฝุ่นอยู่ที่ระดับ IP68 มีระดับการรักษาสวัสดิภาพระดับสูงรวมถึงทำให้ใช้พร้อมกับ Samsung Pay ได้ กล้องความละเอียดมากที่พร้อมทั้งฟีเจอร์มากมาย รวมถึงมีผู้ช่วยเหลือแบบ Bixby ที่ไม่ใช่มาช่วยเหลือเพียงแค่ใช้งานมือถือแต่จะช่วยชีวิตประจำวันง่ายกว่าเดิมเช่นกัน อย่างไรก็ตามเพราะว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุดที่มากับคุณสมบัติมีคุณภาพเลยส่งผลให้มีราคาสูงด้วย
รุ่นต่อมา ก็คือ Galaxy Note Series สำหรับประเภทนี้ดูเหมือนอีกแบบเป็นรุ่นสูงสุดจาก Samsung เพราะแบบ Note ประกอบด้วยคุณสมบัติที่พัฒนามาจาก S series อีกทีนึง จึงช่วยให้ประเภทนี้มีสเปคที่สูงสุดจาก Samsung เลยก็ว่าได้ เรื่องเกี่ยวกับการออกแบบโทรศัพท์ก็ทำออกจำหน่ายได้ดีวัสดุที่นำมาใช้คืออุปกรณ์พรีเมี่ยมเช่นกัน โดยที่จุดแข็งของรุ่นนี้จะเน้นไปที่ตัวปากกาที่ใช้ร่วมกัน เป็นเกี่ยวกับการจดบันทึก การวาดต่างๆ ไว้ภายในโทรศัพท์มือถือ และยังประกอบด้วยจอแสดงผลใหญ่ที่ทำออกมารองรับโครงสร้างดังกล่าวข้างต้นด้วย เกี่ยวกับมูลค่าก็มีมูลค่าที่สูงเท่าๆ กับ S series
รุ่นถัดไป เป็น Galaxy A Series สำหรับประเภทนี้นับว่าเป็นรุ่นที่อยู่บนระดับกลางค่อนไปทางมากๆก็คือ มีสเปคที่ไม่แพงมาก ระบบปฏิบัติการทำงานอยู่ที่เกรดกลางๆ แต่รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่กล้องประสิทธิภาพดี มีลูกเล่นเยอะ พร้อมทั้งช่วยให้ถ่ายภาพ ออกมาดีแม้ตรงที่สถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย สุดท้ายนี้คือเกี่ยวกับวัสดุที่นำมาใช้รอบๆโทรศัพท์มีการใช้งานวัสดุเกรดเอ ตัวอย่างเช่น อะลูมิเนียม ในด้านราคาอยู่ที่เกรดกลางๆ
รุ่นสุดท้าย เป็น Galaxy J Series เป็นแบบที่ไม่มุ่งเน้นเกี่ยวกับสเปคซักเท่าไหร่นัก อุปกรณ์ที่นำมาใช้รอบๆตัวเครื่องก็ไม่ได้มุ่งเน้นเป็นอุปกรณ์พิเศษหมือนกับรุ่นอื่นแต่ว่าการออกแบบโดยรวมถือว่าทำออกจำหน่ายได้ดี เพราะว่าเน้นการเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่มูลค่าไม่แพง ส่วนของ กล้องถ่ายรูปถ้าเปรียบกับมูลค่าก็ถือว่าคุณภาพดีอยู่พอสมควร แล้วยังทำให้รองรับการใช้งานลักษณะสองซิมการ์ดได้เช่นกัน จุดแข็งของประเภทนี้เป็นคุณภาพของเครื่องโดยทั้งหมดหากเปรียบกับราคาแล้วล่ะก็ถือว่าถือเป็นมือถือที่คุณภาพดีในมูลค่าย่อมเยาว์เลยทีเดียว
            จะเห็นว่า Samsung มีการเข้าสู่ธุรกิจด้วยการผลิตสมาร์ทโฟนออกมาคลอบคลุมการใช้งานในทุกอย่าง ทุกความอยาก รวมไปถึงทุกขั้นราคา เพราะมีหลายประเภทให้เลือกส่งผลให้ผู้ซื้อได้มีทางเลือกกับเปรียบเทียบกับการทำงานของตัวเองว่าถ้าหากเลือกไปจะได้ทำงานจริงๆรวมถึงคุ้มสำหรับการทำงานหรือไม่ ตัวอย่างเช่นถ้าชื่นชอบการเขียนบันทึกหรือว่าการทำงานบนโทรศัพท์มือถือ Galaxy Note Series ก็ตรงตามการทำงานที่สุดก็เพราะว่ามีฟังก์ชั่นกับการทำงานหลักที่โดนการปรับปรุงมาเพื่อจะรองรับการทำงานในประเภทดังกล่าวข้างต้น หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่ได้ใช้งานสมาร์ทโฟนหนักมาก รวมทั้งไม่อยากได้โทรศัพท์เคลื่อนที่มูลค่าสูงเกินไป Galaxy A Series ก็ทำให้ตรงใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ ก็เพราะว่ามีสเปคปานกลาง อย่างไรก็ตามฟังก์ชั่นการทำงานมีประสิทธิภาพดีไปจนถึงตัวเครื่องทำมาจากอุปกรณ์พรีเมี่ยมช่วยให้โทรศัพท์ที่ได้สวยงามรวมทั้งทำให้ซื้อได้ในมูลค่าที่ไม่แพงอีกด้วย
            ดังนั้น การที่ Samsung มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกขายรองรับทุกๆความต้องการเช่นนี้เลยกลายเป็นข้อเป็นต่อสำหรับการชิงชัยในท้องตลาด รวมทั้งนับว่าเป็นจุดแข็งที่กระตุ้นให้ Samsung ยังรักษาการเป็นอันดับแรกภายในตลาดสำหรับมือถือมาได้อย่างเนิ่นนาน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มือถือซัมซุง

Tags : มือถือซัมซุง,มือถือ samsung,มือถือซัมซุง ราคา