สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยล้ม

  • 0 ตอบ
  • 211 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยล้ม
« เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2018, 07:37:46 PM »
                ในเหล่ากล้องถ่ายรูปดิจิตอลกับทั้งกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบในบ้านเรากับกระแสในทั่วโลกนั้น หากไม่เอ่ยแบรนด์ ฟูจิ ก็อาจเหมือนกับพร่องสิ่งไรไปบางอย่าง ในปัจจุบันนี้กล้องฟูจิ ราคาหลายหลากที่มีให้เลือกเฟ้นซื้อหานั้น  ได้เข้านั่งอยู่ในใจของผู้ที่ชอบพอการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นยี่ห้อที่บรรลุผลในปัจจุบัน มียอดจำหน่ายในแต่ละปีโด่งที่สุดในเมืองไทยพร้อมด้วยระดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมไปถึงทั่วโลกในเหล่ากล้องมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะข้ามมาจวบจนกระทั่งจุดนี้ได้ เรียกได้ว่าฝ่าคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจและแนวทางเทคโนโลยีที่บริษัทเก่าก่อนอย่าง Fujifilm ต้องมุมานะตะเกียกตะกายอีกทั้งวิ่งให้ทันโลกอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าแปลกเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1934 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นในคราวนั้นที่พึงประสงค์จะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง กับทั้งมีการเติบโตมาอย่างไม่ขาดสายตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าทำสาขาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก อีกทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจก้าวย่างเข้ามาบุกท้องตลาดงัดข้อกับเจ้าวงการในอเมริกาอีกทั้งในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้เทคนิคเปลี่ยนมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากโกดักได้มากกว่า ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 และทวีคูณอีกเป็น 60% ในปี 1996 ที่ในเวลานั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างขับเคี่ยวกันที่จะเป็นเจ้าวงการฟิล์มถ่ายรูป แต่หารู้ไม่ว่ามีลูกคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังถั่งโถมเตรียมที่จะเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงรุนแรงของธุรกิจการค้ากล้องฟิล์มคือยุคสมัยปี 2000 ต้นๆ ในยุคสมัยที่บริษัท SONY และ HP เปิดตัวกล้องถ่ายภาพดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกกับทั้งสามารถเรียกจุดสนใจจากคนรักการถ่ายรูปไปได้ใช่เล่นเลยทีเดียวในตอนนั้น โดยเฉพาะการเข้ามาของ smart phone และ social media ยิ่งกว่านั้นการถ่ายรูปดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า ง่ายๆกว่า และรวดเร็วกว่ามาก จึงเป็นผลให้พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป  บริษัทอีสต์แมนโกดักขณะนั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายรูปจะคงอยู่ได้อีกช่วงหนึ่ง ได้แก่มิตกลงฮวบฮาบอย่างแน่แท้ อย่างนั้นโกดักจึงยังคิดว่าจะเก็บกระแสกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักระยะนึง แต่ฟูจิคาดว่าสุดท้ายนี้แล้ว ดิจิตอลต้องมากัดกินเนื้อกิจการฟิล์มอย่างแน่นอนและรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตกลงใจที่จะนำบริษัทเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
จริงๆ แล้วแล้วกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาได้บนโลกโมเดลแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั้นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างเนรมิตขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่สืบต่ออย่างเอาจริง กลับเห็นเป็นเหมือนสิ่งที่จะมาบั่นทอนกิจการหลักคือฟิล์มถ่ายรูป ผิดแผกจากระดับผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงแม้ว่าจะมิได้บุกเบิก แม้กระนั้นก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้ปรับปรุงกล้องถ่ายรูปดิจิตอลออกวางจำหน่ายอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีวิสัยทัศน์ที่ต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่เตรียมไปสู่ยุคใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทั้งยังเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตนเองมีและเคล็ดต่างๆ ที่ใช้ถนอมสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาดัดแปลงกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยคงทนสภาพความชุ่มชื้น กับทั้งความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกแบรนด์เครื่องสำอางค์ภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมทั้งวางขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในยุโรป ซึ่งสมัยปัจจุบันทำกำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่เพียงแค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech นำมาใช้กับวัสดุทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค อีกทั้งพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง และโรคความจำเสื่อม ลดงบประมาณการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มาก
การรอดตายของ Fujifilm ในปัจจุบันที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคามากมายให้ได้เลือกซื้อของกันอยู่นั้น กุญแจดอกสำคัญคือการมองการณ์ไกลและการรับรู้การเปลี่ยนทิศทางของกระแสลมเทคโนโลยีของประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังระไวภัยมากกว่าบริษัทอื่นใด ก็เพราะว่าเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับยี่ห้ออื่นแต่เชื่อว่าตลาดฟิล์มจะสิ้นซากโดยเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะฟิล์มถ่ายภาพเป็นธุรกิจหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างไวและสร้างกิจการค้าใหม่ทันท่วงที ชะตากรรมก็คงไม่พ้นจากการหมดตัว และการปรับปรุงการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดอยู่กับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หน่วยงานให้เข้ากับสภาพการณ์สมัยนี้ขณะนั้นๆให้มากที่สุด บ่งให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดอยู่กับที่มิเช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภายภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm