สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์แวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 275 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ประวัติศาสตร์แวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2018, 05:19:56 PM »
                ถ้าหากคุณคือผู้ที่ตกหลุมรักในเสียงเพลง หรือว่าเสียงดนตรี มั่นใจว่าคุณจักต้องรู้จักยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาย อาทิเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยประวัติเรื่องราวของแบรนด์นี้ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานวงการดนตรีร็อกแอนด์โรลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งประวัติของ Marshall นั้น จะมีภูมิหลังอย่างไรบ้าง และเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกปานนี้ อิฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มแรกอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้ชำนาญมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ภายหลังก็ได้เปลี่ยนตนเองมาดำเนินงานธุรกิจการค้าร้านรวงขายเครื่องดนตรี อีกทั้งอุปกรณ์มากมาย โดยเริ่มต้นจากการทำการค้ากลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนแถว Hanwell โดยผู้ซื้อส่วนมากจะเป็นนักดนตรีดนตรีRock and Roll ที่มีชื่อเสียงในเวลานั้น อาทิเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นเหตุที่เป็นเหตุให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
                จากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายท่านต้องการแอมป์ หรือเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าแต่ก่อน เหตุเพราะปมปัญหาที่เจอส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาวางขาย และดันสำเร็จขนานใหญ่ กลายเป็นการบอกปากต่อปาก กระทั่งคณะดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้จัดทำออกมาจำหน่ายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมด้วยได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นตอของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน รวมถึงยังบอกคือเสียงเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีเลิศตามที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความวางใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ แนวร็อก จากวงชื่อดัง ระดับตำนานเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall อย่างรวบรัด ถึงกระนั้นครั้นเมื่อสมัยได้ล่วงเลยเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่ชำนาญในสังคมเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และแม่นยำตามพระราชประสงค์ หรือตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟัง เพื่อให้ผู้บริโภค หรือคนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ที่นั่นทำให้ Marshall ฮิตอย่างเพียบเหมือนกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก สวยงาม ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่ารู้ อีกทั้งจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ภายในตัว การออกแบบสวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการต่อโดยด่วนด้วย Bluetooth 4.0 อย่างไรก็ดีสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ต่ำต้อยไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่ชัดครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งสิ้น 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความสามารถเฉพาะในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเปรียบเสมือนคุณกำลังฟังบทเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท ถ้าหากเปรียบกับน้ำเสียงที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางกระผมได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตจนกระทั่งล่าสุดนั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคสมัยจักผ่านไปนานเท่าใด ทว่า Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หูฟัง marshall

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall