สวัสดี บุคคลทั่วไป

เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 280 อ่าน
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
« เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2018, 09:12:46 AM »
ถ้ากล่าวถึง Huawei ตระกูล P Series ตัวแรกที่คิดถึงเลย ก็น่าจะหลบหนีไม่พ้น Huawei P9 เนื่องด้วยช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เหตุด้วยความเป็นกล้องคู่ที่ได้รับการประสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความนิยมชมชอบอยู่ในเวลานี้ วันนี้เราจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายภาพของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องข้างหลัง 2 กล้องที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องขั้นตำนานมาร่วมออกแบบกล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายรูปหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการชี้ให้เห็นช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขแนบท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอเหมาะเลยทีเดียว
 
 โดยกล้องถ่ายภาพตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะที่กล้องถ่ายภาพตัวที่ 2 จะเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus เหมือนกันเลย อีกอย่างถึงจะแบ่งแยกเป็นกล้องถ่ายรูป RGB กับ กล้อง Monochrome แต่กล้องทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพทั่วไป รวมทั้งสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเหมือนกัน

 ด้านกล้องถ่ายรูปด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังนับว่ายังทำออกมาได้ดีถึงแม้จะมิใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าตาขาวใส หากใครที่ชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นท่านไปงานเลี้ยงยามค่ำคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกสถานที่ โดยไม่ต้องแลหาแสงจากที่ไหน เพราะหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ยังกะไฟแฟลชข้างหน้าเลยเทียว
 
 และถ้าหากเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด เพราะแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายรูป แต่อยากได้รูปที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครต้องการนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เพราะด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายรูป Monochrome ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งสาระสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นยี่ห้อเริ่มแรกที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจทำได้ไม่ดีราวกับกล้องถ่ายรูปใหญ่อย่าง DSLR เพราะว่ามีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่เทียมเท่ากล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะหากไร้ขาตั้งกล้อง อาจทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยทีเดียว แต่หากไม่ต้องการปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดสำคัญ สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากหลาย แต่อย่างที่เสนอไปในข้างต้น ว่า Huawei สายสกุล P Series นั้น มีจุดสำคัญที่กล้องอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่นิยมชมชอบการถ่ายรูป และต้องการรูปถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพทัดเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถพกพาได้อย่างราบรื่นมากกว่าพกกล้องจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งณ เวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง โดยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้าน ราคาอาจจะต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะขอรับกระผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9