สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานแวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 245 อ่าน
ตำนานแวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2018, 10:34:05 AM »
                หากคุณเป็นผู้ที่เคลิ้มในเสียงดนตรี หรือเสียงดนตรี เชื่อว่าท่านจะต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อาทิเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกนานัปการ โดยประวัติเรื่องราวของยี่ห้อนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประวัติศาสตร์แวดวงดนตรีร็อกแอนด์โรลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งภูมิหลังของ Marshall นั้น จะมีประวัติอย่างใดบ้าง พร้อมกับทำไมถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ดิฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง สืบมาก็ได้เปลี่ยนแปลงตนเองมาดำเนินงานธุรกิจร้านขายเครื่องดนตรี และเครื่องมือต่างๆ โดยเริ่มต้นจากการขายกลองชุดพร้อมด้วยกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากจักเป็นนักดนตรีดนตรีร็อกแอนด์โรล ที่มีชื่อเสียงในระยะเวลานั้น อาทิ ริตชี แบล็กมอร์ ไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีลูกค้ามากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายท่านเรียกร้องแอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งเสียงดังกว่าแต่ก่อน ด้วยเหตุว่าตัวปัญหาที่ประสบเป็นส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการเล่นแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาจัดจำหน่าย และดันสำเร็จอย่างหนัก กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงได้ผลิตออกมาจัดจำหน่ายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมทั้งได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดตั้งต้นของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายนิยมชมชอบ อีกทั้งยังบอกคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงยอดเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความวางใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับตำนานอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall อย่างสังเขป อย่างไรก็ตามครั้นสมัยได้ล่วงพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่คร่ำหวอดในกลุ่มเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมในการผลิตสินค้าเพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งถูกต้องตามความอยาก หรือตอบโจทย์ผู้ใช้เยอะขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นสินค้าพวกหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือบุคคลธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงดนตรีในสไตล์ของ Marshall รวมถึงสินค้าเหล่าลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ โดยนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ได้รับความนิยมอย่างเต็มเปี่ยมด้วย ด้วยแนวเสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก ดูดี ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมกับจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิกอยู่ข้างในตัว การออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดย่อมสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการต่อโดยด่วนด้วย Bluetooth 4.0 แต่ทว่าสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับการเป็นสุดยอดตำนานแบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกขายนานแล้วเช่นกัน แต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ด้อยไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่กระจ่างครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งหมด 3 ตัว ยิ่งกว่านั้นยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเสมอเหมือนคุณกำลังฟังเพลงจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท หากเทียบกับน้ำเสียงที่ได้ ถือว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางดิฉันได้ยกมาฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตกระทั่งถึงสมัยปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าระยะเวลาจักล่วงเลยนานเท่าใด แต่ทว่า Marshall ก็ยังดำรงความคลาสสิกตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall