สวัสดี บุคคลทั่วไป

ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 243 อ่าน
ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มค่า
« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2018, 12:48:13 PM »
แม้ว่ามือถือเรือธงของค่าย Apple ในปี 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ซึ่งมาพร้อมทั้งดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและเป็นแน่แท้ว่าราคาก็สูงเช่นเดียวกัน แต่กระนั้นหลายคนอาจจะลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X เริ่มแค่ 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักกัน โดยสืบมาคงจะเหมือนกับเป็นรุ่นที่ถูกหลงลืมก็เพราะว่ากระแสของ iPhone X แต่รู้หรือเปล่าว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus แม้ว่าจะมีเค้าโครงหน้าตาไม่ต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ ดิฉันจักนำทุกคนไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
 
ไอโฟน 8 พร้อมกับ iPhone 8 Plus เปิดซื้อขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในสหรัฐฯและจำหน่ายที่เมืองไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องพอกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นกัน ถึงกระนั้นมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีด้านหลังคือกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบปราศจากสายได้
 
 ในส่วนของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้เลือกเพียงแค่ 2 ขนาด เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงพร้อมกับรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 แม้ความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาพแสงในเวลานั้น ทำให้หน้าจอดูเป็นธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core จำแนกเป็น 4-Core ที่สมรรถนะสูง และอีก 2-Core ใช้เวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอึ้งอะไร โดยใช้การทำงานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าสนใจคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปพร้อมทั้งเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกชั้นชั้นเยี่ยม ยกตัวอย่างเกมรถแข่งอย่าง Need for Speed ที่ต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือไม่ก็ ROV ก็เล่นได้ไม่สะดุด

 กล้องถ่ายภาพได้ขยายมาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล ถึงแม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น จับภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ถ่ายภาพ มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพบุคคล เดิม ที่ให้เราเลือกสรรปรับแสงหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมด้วยไฟแฟลชจากจอ Retina HD

                 ในด้านการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะแลดูละมุนละไม ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีเพียง 30fps) แต่ตอนนี้เราเลือกสรรได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดโดยทั่วไป ด้านการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่เพิ่มเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นหนแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายความว่า มิจำเป็นต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple แค่นั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งตอนนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำว่าพึงเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 เอาเป็นว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงดีไซน์ตัวเครื่องแรกเริ่มตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป เป็นพิเศษในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชอบฉายรูปน่าจะถูกใจการรวมกันของคุณลักษณะของกล้องถ่ายภาพที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยตกแต่งแสงเงาในภาพได้หลากหลายแบบตามความอยาก ทำให้ตอนที่ออก วางตลาดใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่
 
ส่วนหน้าจอที่งดงามบวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวตัวหลักใด ๆ ในเวลานี้ก็ถือว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากว่าใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะขยับขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชี้แนะไปนั้น ก็แนะนำว่ารอไปอีกสักหน่อย เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะทวีคูณมากกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8