สวัสดี บุคคลทั่วไป

iPhone 6s กับการอัพเกรดสเปคใหม่ บอกเลยว่าแรง

  • 0 ตอบ
  • 272 อ่าน
iPhone 6s กับการอัพเกรดสเปคใหม่ บอกเลยว่าแรง
« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2018, 02:02:12 PM »
เคยข้องใจมั๊ยคะว่าทำไมชื่อรุ่นของ IPHONE ที่ออกมาต้องมีท้องนาวสกุลต่อท้าย อย่าง "s" หรือ "Plus" ก็เพราะว่า นี่เป็นตัวบอกการเพิ่มหรือความก้าวหน้าต่างๆของ Apple ผ่านงานที่เพิ่มของใหม่ใหม่ๆหรือฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่เสมอเวลา ถ้าหากเราดูดีๆพวกเราจะพบว่าแต่ละปี Apple จะออกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่ใช้ชื่อสลับกันเรื่อยมา โน่นเป็นการเปลี่ยนออกแบบของตัวเครื่องและก็การอัพสเป็คนั่นเองค่ะ ตัวอย่างเช่น
 

o 2007 - iPhone
o 2008 - Apple iPhone 3G
o 2009 - Apple iPhone 3GS (อัปสเปค)
o 2010 - IPHONE 4 (เปลี่ยนวางแบบ)
o 2011 - IPHONE 4s (อัปสเปค)
o 2012 - IPHONE 5 (เปลี่ยนดีไซน์)
o 2013 - iPhone 5s (อัปสเปค)
o 2014 - ไอโฟน 6 / 6 Plus (เปลี่ยนแปลงวางแบบ)
o 2015 - Apple iPhone 6s / 6s Plus (อัปสเปค)
 
จนกระทั่งในช่วงเวลานี้ก็ปรับปรุงมาจนกระทั่ง iPhone X กันแล้วเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone นั่นเอง โดยเหตุนี้ก่อนที่จะไปถึง iPhone X เรามาดูเครื่อง iPhone 6s กันก่อนจ้ะ
 
เปิดฉากกันที่ตัวอุปกรณ์จ้ะ แม้พวกเรามองผิวเผินก็จะมีความรู้สึกว่า iPhone 6s มีขนาดมิได้ต่างจาก iPhone 6 และก็ iPhone 6 Plus เพราะรอบนี้เค้ามาแบบออกแบบเหมือนเดิมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อได้สัมผัสเทียบกัน จะพบว่า มีขนาดใหญ่กว่า จาก iPhone 6 และก็ iPhone 6 Plus เล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ความหนาที่เพิ่มขึ้น 0.2 มม. รวมทั้งความกว้างและความสูงของจอที่มีมากยิ่งกว่าด้านละราวๆ 0.1 มม. เรียกว่าดูด้วยสายตาแทบจะดูไม่ออกอย่างยิ่งจริงๆ แม้กระนั้นเมื่อสัมผัสพวกเราจะรู้สึกได้ว่า iPhone 6s มีน้ำหนักมากยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะในรุ่นนี้ Apple ได้มีการเปลี่ยนแปลง อุปกรณ์มาใช้ Aluminium แบบใหม่ ในซีรีย์ 7000 ที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม ทำให้ iPhone 6s มีน้ำหนักมากยิ่งกว่า iPhone 6 ราว11% เลยทีเดียว แต่ก็โน่นล่ะค่ะ ยิ่งหนายิ่งหนักยิ่งแข็งแรง
 
สิ่งที่สร้างความฮือฮาและก็น่าตื่นตาตื่นใจแบบที่ว่าเห็นแล้วตาโตวาวเลยก็คือ สีสันที่เพิ่มเข้ามาที่ตัวเครื่องนั่นก็คือ สี Rose Gold นั่นเองจ้ะ แน่ๆว่าสีนี้ก็เป็นสีที่ครอบครองตลาดขณะนั้นเลยทีเดียว สี Rose Gold เป็นสีที่ผสมผสานระหว่างสีชมพูอ่อน กับสีทอง ฉะนั้น สีที่ได้จึงดูสวยแบบเรียบหรูดูดี ไม่หวานเวอร์แบบชมพูดิบๆแห้งๆและไม่ทองคำสวยงามแบบทองคำอย่างเดียว เรียกว่าเป็นการประสมประสานที่บรรลุผลสำเร็จมากมายเลยทีเดียวล่ะ นอกเหนือจากนั้นจ้ะ Apple ยังใส่สี Rose Gold เข้าไปที่ขอบของปุ่ม Home ด้วย มองดูเหมาะ เสมือนใส่เสื้อผ้ากับเพชรนิลจินดาเข้าชุดเลยล่ะ
 
มาดูในส่วนของฟีพบร์ทีมาใน iPhone 6s กันบ้างค่ะ ฟีพบร์ที่เด่นที่สุดก็คือ '3D Touch' นี่เป็นครั้งแรก ที่ iPhone สามารถรับรู้ "น้ำหนักของการกดหน้าจอ" ได้ เพื่อให้เราสามารถใช้น้ำหนักการกด ควบคุมฟีพบร์ต่างๆได้มากขึ้นกว่าเดิม ดังเช่นว่า การแตะเข้าแอปต่างๆถ้าเกิดแตะ ก็เป็นการเข้าแอปตามปกติเสมือนที่พวกเราคุ้นเคยกันอยู่ แต่ว่าหากกดลงไปด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น ก็จะเป็นการเปิดเมนู Shortcut ต่างๆขึ้นมาให้พวกเราเลือกอย่างรวดเร็วมากขึ้นนั่นเองจ้ะ
 
'3D Touch' เป็นเทคโนโลยีที่ถูกประยุกต์ใช้คราวแรกใน นาฬิกา Apple Watch ในชื่อเทคโนโลยี Force Touch ซึ่งปัจจุบันก็มีแอปออกมามากไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อรองรับการใช้แรงงานแบบ '3D Touch' จ้ะ เช่น Dropbox, Instagram, Facebook, LINE รวมทั้งยังมีเกมต่างๆอีกเยอะแยะ เช่น เกมแข่งรถ AG Drive, Magic Piano, Blob Games ฯลฯd
 

ต่อมากับเรื่องของ Screen Protector and Tempered Glass กันบ้างจ้ะ เอาง่ายๆก็คือเรื่องฟีล์มกันรอยนั่นเองจ้ะ เนื่องจากว่าเมื่อมีการใช้เทคโนโลยี '3D Touch' ผู้กระทำดปุ่มโดยการลงน้ำหนัก จะมีผลต่อเครื่องหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่หลายๆคนสงสัยกันมากเลยทีเดียวล่ะ จะต้องบอกแบบงี้ค่ะว่า การใช้ฟีล์มกันรอยตามธรรมดาที่พวกเราใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นนี้สามารถใช้ร่วมกับ iPhone 6 Plus ได้ การใช้แรงงาน '3D Touch' ภายหลังติดฟีล์มก็ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติค่ะ โดยเหตุนั้นหัวข้อการใช้ฟีล์มอาจไม่มีผลต่อการใช้งาน '3D Touch' อะไร รวมถึงการใช้ฟีล์มกระจกก็สามารถใช้ได้เหมือนกันค่ะ
 
มาดูที่กล้องถ่ายรูปกันบ้างจ้ะ สำหรับ iPhone 6s เป็นการอัพเกรด กล้องอีกทั้งกล้องถ่ายรูปหน้าและก็กล้องถ่ายรูปข้างหลังมาที่ 12 ล้านพิกเซลเท่าๆกัน ฉะนั้นเรื่องของภาพที่ชัดแจ๋วไม่ต้องกล่าวถึงค่ะ เรียกว่าเป็นการพัฒนาตามมาติดๆกับแอนดรอยด์ที่นำเรื่องกล้องถ่ายภาพไปไกลแล้ว

ขอบคุณบทความจาก : https://www.priceza.com/s/ราคา/iPhone-6s

Tags : iPhone 6s,ไอโฟน 6s, iphone 6 เอส