สวัสดี บุคคลทั่วไป

Bose VS อัศวโสภณ

  • 0 ตอบ
  • 231 อ่าน
Bose VS อัศวโสภณ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2018, 12:35:53 PM »
หากจักกล่าวถึงเครื่องเสียงซักแบรนด์ที่เรืองนามมาอย่างช้านาน พร้อมกับได้รับความนิยมมาก พร้อมกับคุณภาพเสียงที่เต็มแน่นทั่วอณู ก็คงจะมียี่ห้อ Bose เข้ามาปรากฏในลิสต์เช่นเดียวกัน โดย Bose ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 ภายใต้ชื่อที่ว่า Bose Corporation ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Dr. Amar G. Bose ศาสตราจารย์ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า (electrical engineering) ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งของโลก นั่นก็คือ "Massachusetts Institute of Technology" หรือที่พวกเรารู้จักกันอย่างดีในชื่อสั้นๆ ที่เรียกว่า MIT นั่นเอง โดยข้าพเจ้าจักนำพาท่านไปทราบถึงแหล่งกำเนิด และกว่าจะมาเป็น Bose Corporation กัน
Dr. Amar G. Bose เป็นคนที่ติดอกติดใจเพลง และด้วยความกังขาในตอนเด็กว่าชิ้นส่วนที่ให้เสียงในวิทยุ จึงได้แกะออกมาพิจารณาและก็ประกอบกลับเข้าไปใหม่ และในขณะนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ธุรกิจการค้านำเข้าใยมะพร้าวของครอบครัวได้ผลกระทบ Amar G. Bose จึงได้ออกความคิดเห็นกับคุณพ่อของเขาว่าจะเปิดบริษัทซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการเอาวิทยุ หรือทีวีที่เสียของลูกค้ามาซ่อมแซม พร้อมทั้งเขายังบอกอีกว่า "หากว่าผลการเรียนที่โรงเรียนผมดี ผมจะแกล้งป่วย 1 วันต่อสัปดาห์เพื่อมาช่วยซ่อมแซมวิทยุนะครับผม" นั่นจึงทำให้คุณพ่อของเขามองเห็นคุณสมบัติพิเศษในตัวของลูกชาย
ซึ่งพ่อเองก็ตั้งเจตนาเอาไว้ว่า "เราจักส่งลูกของเราไปเรียนที่สถาบันที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้" นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Amar G. Bose ได้เข้าเรียนใน Massachusetts Institute of Technology (MIT) ที่ตอนนั้นคุณพ่อของ Amar G. Bose ยืมเงินจำนวน 330,000 บาท เพื่อให้บุตรชายของเขาได้ศึกษาในสถาบันที่ดีที่สุดนั่นเอง และหลังจากนั้น 9 ปีถัดมา Bose ได้จบการศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า โดยขณะนั้นมีอายุแค่ 27 ปีเท่านั้น และได้เริ่มเข้าทำงานเป็นผศ. พร้อมกับเริ่มหาสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบตั้งแต่เด็กก็คือเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอนั่นเอง ซึ่งเขามองว่าของแพงคือของดี แต่แล้วเขาก็คิดผิด เพราะสิ่งที่เขาได้รับคือเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอมูลค่าสูงที่มีเสียงที่ทุ้มต่ำมาก อีกทั้งน้ำเสียงผิดเพี้ยนไปจากท่วงทำนองต้นฉบับพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นเหตุให้เขาตระหนักว่าพึงมี Bose Corporation ที่ผลิตเครื่องเสียงที่ดี และมีคุณภาพได้แล้ว
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Bose ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โด่งดัง และได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกเอาออกไปซื้อขายทั่วโลก รวมถึงเมืองไทยด้วยเหมือนกัน ซึ่งได้รับความน่าเชื่อถือจาก Bose(R) Corporation อเมริกา โดยมีบริษัท อัศวโสภณ จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้า Bose(R) เครื่องเสียงชั้นดีของโลกแต่ผู้เดียวในบ้านเรา ครั้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 จนวันนี้ ถือได้ว่าเป็น Bose Thailand เลยก็ว่าได้
ซึ่งตอนนั้นได้ดูแลงานโดยคุณทวี อัศวโสภณ และด้วยความไว้วางใจของกันและกันที่มีให้กัน จึงเป็นเหตุให้ Bose Thailand สามารถยืนหยัด และครองตลาดเครื่องเสียงและลำโพงมาจนกระทั่งสมัยนี้ ถัดจากนั้นต่อมาบริษัทอัศวโสภณจะดูเงียบๆ ไปในเชิงธุรกิจการค้า ในสมัยของคุณไพศาล อัศวโสภณ ผู้ดำเนินงานอัศวโสภณ รุ่นที่ 2 โดยเป็นบุตรของคุณทวี อัศวโสภณ นั่นเอง โดยคุณไพศาล อัศวโสภณเป็นคนที่เน้นเรื่องงานด้านเทคนิคมากกว่าการตลาดนั่นเอง เขาจึงไม่ค่อยสนใจในเรื่องของการลด แลกเปลี่ยน แจก แถมสักเท่าไหร่นัก โดยเขาจะมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่านั่นเอง
แต่แล้วก็เข้าสู่ยุคที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งหมด ราคาตลาดก็เบาบางลงอย่างต่อเนื่อง มีผลกระทบให้รายได้ของบริษัท ในเวลานั้นลดน้อยไปมากพอใช้ได้ แต่คุณไพศาลก็ยังศรัทธาว่าลูกค้าเก่าจะยังคงอยู่กับ BOSE ต่อไป แม้กระนั้นในความเป็นจริงแล้วนั้น การทำกิจการขณะนั้นเริ่มยากลำบากมากขึ้น ด้วยเหตุว่าอย่างที่แจ้งไปในตอนแรกว่าคุณไพศาลชอบการทำงานทางด้านเทคนิคมากกว่าการจัดการทางด้านการตลาด ทำให้ใครหลายๆ คน กังวลใจสภาพการณ์ของอัศวโสภณไม่เบาในขณะนั้น
อย่างไรก็ดีก็ผ่านมาได้กระทั่งปัจจุบันนี้ โดยได้คุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ ลูกชายคนโตของคุณไพศาล อัศวโสภณ นั่นเอง ที่มาช่วยการทำงานในด้านการตลาด เพราะว่าคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ ได้จบการศึกษามหาบัณฑิตด้านการบริหารจาก Central Michigan University ยอมรับว่าเป็นรอยเชื่อมที่พอดีอย่างยิ่งที่ อัศวโสภณ หรือ Bose Thailand มีทั้งการตลาดที่ดีเลิศจากคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ และการทำงานทางด้านเทคนิคที่สุดยอดจากคุณไพศาล อัศวโสภณ จนกระทั่งทำให้อัศวโสภณยังคงอยู่กับ Bose เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้

Tags :  bose thailand, bose,bose ราคา