สวัสดี บุคคลทั่วไป

ที่ดูดฝุ่น ตัวช่วยเพื่อช่วยการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 207 อ่าน
            เครื่องดูดฝุ่นถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านเลยก็เป็นไปได้ ด้วยความที่ใช้ง่าย สะดวก รวมถึงช่วยให้ประหยัดเวลาในการเก็บกวาดที่พักอาศัยทำให้แทบทุกที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ติดที่พัก แต่ว่าการที่จะตัดสินใจซื้อที่ดูดฝุ่นเพื่อจะเอามาใช้งานซักเครื่องจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องมีรูปแบบเพื่อตัดสินใจซื้อรวมถึงมียี่ห้อไหนแนะนำกันบ้าง
            อย่างแรกคือ ชนิดสำหรับที่ดูดฝุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นก็เพราะว่าประเภทของที่ดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะสมกับการทำงานที่แตกต่างไป ที่ดูดฝุ่นมีอยู่ 4 ประเภท
1.) ที่ดูดฝุ่นแบบแห้ง เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องทั่วไป แต่ว่าไม่เหมาะสำหรับที่พื้นพรม ด้วยความที่แรงในการดูดฝุ่นไม่พอ
2.)  ที่ดูดฝุ่นไม่มีสาย เน้นความสะดวกสบายในการทำงาน เนื่องจากต้องชาร์จพลังงานก่อนที่จะนำไปใช้ รวมไปถึงน้ำหนักเบาใช้ง่าย เหมาะสำหรับห้องที่มีบริเวณน้อย
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกต่อการทำงานสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก อย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น สามารถทำให้สะอาดอัตโนมัติได้ตามการวางโปรแกรม แล้วยังช่วยเข้าถึงพื้นที่ที่มุ่งหวังทำความสะอาดได้แบบง่ายมาก พร้อมเซ็นเซอร์สแกนสิ่งกีดขวางบวกกับยางป้องกันกระแทก
            เรื่องที่สอง พื้นที่ในการทำงาน ถือเป็นประเด็นที่ต้องนำมาคิดเพราะจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกขนาดของที่ดูดฝุ่น รวมไปถึงที่พักอาศัยของเรามีมุมอับหรือเปล่า หากว่าเลือกที่ดูดฝุ่นปริมาตรเล็กเกินไปทำให้เครื่องดูดฝุ่นใช้งานหนัก ทำความสะอาดได้ไม่มีประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้ชำรุดเร็วขึ้น
อย่างถัดมา ประเด็นเกี่ยวกับฟังก์ชั่น รวมถึงประสิทธิภาพสำหรับทำความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่น เรื่องนี้ควรพิจารณาเริ่มตั้งแต่กำลังไฟ โดยจำเป็นควรเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้งานก็เพราะว่าถ้าแรงไฟน้อยก็ส่งผลกับแรงสำหรับดูดฝุ่น ถัดมาก็คือพวกโครงสร้างทั้งหลาย ในแต่ละแบรนด์รวมถึงทุกรุ่นก็จะมีฟังก์ชั่นที่ไม่เหมือนกันไป เช่น ทำให้กดฝุ่นละอองให้เป็นก้อนเพื่อสบายกับการเก็บ หรือมีระบบการกรองมากขั้นสำหรับไม่ให้ฝุ่นผงออกจากตัวเครื่อง เป็นต้น คุณก็เลยจำเป็นที่จะต้องพิจารณาว่าที่ดูดฝุ่นอย่างไหนที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด
            สุดท้ายเป็น เรื่องเกี่ยวกับคุณลักษณะ ราคา รวมทั้งอายุการใช้งาน คือเรื่องที่ควรคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพกับราคาดำเนินไปในคู่ควรกันหรือไม่รวมทั้งคุ้มค่าที่จะเลือกซื้อเพื่อนำไปใช้หรือไม่ก็เพราะว่าต่อมาคืออายุการใช้งานถ้าหากเลือกซื้อของที่ผิดในการทำงานไปจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงรวมถึงนับว่าเป็นการสิ้นเปลือง
ที่ดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะเอามาเสนอแนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • HITACHI เครื่องดูดฝุ่นประเภทกล่อง แบบ CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ทำให้ทุกคนกำจัดไรฝุ่นได้การพิสูจน์คุณภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ปริมาตรปริมาตร 1.6 ลิตร บีบบีบฝุ่นเป็นก้อนทำให้สะดวกกับการทำลาย ไม่กระจาย ด้วยระบบสกัดฝุ่น 7 ขั้นตอน พร้อมด้วยแผ่นกรองเฮป้า รวมถึงนาโน ไททาเนียม ดักกลิ่น ตัดการทำงานโดยอัตโนมัติหากเครื่องอุณภูมิสูง สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่น FC8822/01 พร้อมทั้งระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับเปลี่ยนโหมดตามสภาวะรอบๆ ตัว พลังงาน LI-ION ช่วยให้ปฏิบัติงานติดต่อกันได้นาน 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ที่มีการเช็ดเก็บฝุ่นละอองประเภทแห้ง หุ่นยนต์จะสำรวจบริเวณที่สกปรกมากเพื่อจะเก็บกวาดเป็นพิเศษ และยังมีโหมดตรวจจับพื้นผิวที่แตกต่างกันเพื่อจะเก็บกวาดอย่างถูกวิธี สนนราคา 21,990 บาท
  • DYSON ที่ดูดฝุ่นลักษณะด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไร้สาย พร้อมทั้งการทำงาน ครอบคลุมทุกอย่าง มีความมั่นคงคงทน ใช้งานไม่ยาก โดยใช้ระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ขั้น ที่สามารถเพิ่มเติมการไหลเวียนของอากาศและยังดักจับฝุ่นละอองเล็ก หัวเก็บกวาดรูปแบบ Direct-drive ทำความสะอาดตรงเข้ากับพรมเพื่อขจัดคราบเปรอะเปื้อนในพื้น ส่วน หัวเก็บกวาดชนิดลูกกลิ้งนุ่มดีไซน์เพื่อที่เหมาะกับพื้นแข็ง และยังมาพร้อมกับระบบกรองประเภทถอดออกไปชำระล้างได้ด้วย ด้วยมูลค่า 28,900 บาท


จะเห็นว่า แบรนด์แทบทุกยี่ห้อขยันปรับปรุงพร้อมกับใส่เทคโนโลยีล่าสุด ใส่ไปเพื่อให้สะดวกสบายกับผู้ใช้ ดังที่กล่าวมา การเลือกเครื่องดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะสมกับการใช้งานก็เลยไม่ได้เป็นเรื่องทรามเสมอไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี