กล้องถ่ายภาพดิจิตอล มีพัฒนาการจากเทคโนโลยีอะท้องนาล็อกที่ใช้กับเครื่องอัดวิดีโอเทป หรือวีทีอาร์ ที่ใช้บันทึกภาพจากทีวี แปลงข้อมูลเป็นกระแสไฟดิจิตอล ไปบันทึกบนเทปแม่เหล็กห้องแลป บิงครอสบีที่มี นายจอห์น มูลลิน วิศวกร เป็นหัว หน้ากลุ่มในปี 2494 (คริสต์ศักราช1956) สร้าง สรรค์เทคโนโลยี วีทีอาร์สมัยแรกนี้ รวมทั้งปรับปรุงต่อเป็นสิ่งใหม่ใหม่ ชื่อ วีอาร์ 1000 ใช้ในแวดวงทีวีอย่างล้นหลาม โดยคณะทำงานของชาร์ลส์ พี. รับประทานสเบิร์ก และก็บริษัท แอมเพ็กซ์ufabet คอร์เปอเรชั่นทั้งยังกล้องถ่ายภาพที่ใช้ถ่ายทำรายการทีวี กล้องถ่ายภาพวิดีโอ และก็กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ใช้เทคโนโลยีซีซีดี (Charged Coupled Device) หรือเครื่องมือสารกึ่งตัวนำที่ใช้แปลงสัญญาณแสงสว่างแล้วก็สีเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อใช้บันทึกลงในสิ่งของเก็บข้อมูลในสมัยทศวรรษ 60 หรือราวปี พุทธศักราช 2503 เป็นต้นมา องค์การนาซา หรือที่นาซ่า สมัครufabetใช้ระบบดิจิตอลบันทึกภาพยานอวกาศบนผิวพระจันทร์โดยส่งภาพดิจิตอลที่ได้กลับมายังผิวโลกและก็ทุ่งนาซ่าใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์สำหรับในการตกแต่งภาพกระสวยอวกาศที่ส่งมาให้เกิดความสวยงามเนียนเวลาเดียวกัน ภาคเอกชนก็ปรับปรุงระบบดิจิตอลอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี 2515 บริษัทเท็กซัส จดสิทธิบัตรกล้องถ่ายรูปอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฟิล์มถ่ายรูปขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นในปี 2524 บริษัทโซนี่วางขายกล้องถ่ายรูปดิจิตอลแบรนด์ Mavica สำหรับเอกชนเป็นครั้งแรกของโลก ข้อมูลที่ได้จากการถ่ายรูป บันทึกลงในดิสก์ขนาดจิ๋วและก็นำไปต่อเชื่อมกับเครื่องอ่านวิดีโอเพื่อมองภาพในทีวี หรือต่อเชื่อมกับเครื่องพิมพ์เพื่อพิมพ์ภาพสีสันสวยสดงดงามออกมา แต่ว่ากล้องถ่ายภาพมาวิติดอยู่ไม่เป็นกล้องถ่ายภาพดิจิตอลพันธุ์แท้เพราะเหตุว่ามีระบบระเบียบถ่ายรูปแบบภาพนิ่งถัดมาบริษัทโกดัก เทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ที่แวดวงถ่ายภาพ สร้างสรรค์ระบบแผงเซ็นเซอร์ตรวจค้นภาพที่รับสัญญาณแสงสว่างรวมทั้งสีจากกล้องถ่ายรูปแล้วกลายเป็นสัญญาณดิจิตอลเพื่อเก็บข้อมูล กล้องถ่ายรูปจำพวกใหม่นี้ได้รับความนิยมสำหรับมือโปรและก็ครอบครัวหลังจากนั้นในปี 2529 นักวิทยาศาสตร์จากโกดักสร้างสรรค์ระบบเซ็นเซอร์ ซึ่งมีความละเอียดภาพสูงที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกและก็บันทึกความละเอียดภาพได้กว่า 1.4 ล้านพิกเซลและก็เอามาพิมพ์เป็นภาพดิจิตอลความละเอียดสูงขนาด 5x7 นิ้ว