อย่างที่ทราบกันดีตั้งแต่แรกแล้วว่าอากาศในไทยได้ชื่อว่าอุณภูมิสูงอย่างมากเลยทำให้ แอร์หรือAir Conditionเป็นที่ชื่นชอบและยังกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่เกือบจะทุกครัวเรือนจะต้องมี แต่ว่าทุกคนส่วนใหญ่ก็ใช้ เครื่องปรับอากาศกันตามการใช้งานแบบที่คุ้นใช้โดยที่ไม่ได้คิดถึงการใช้งานตลอดจนการดูแลรักษาที่ถูก ทำให้ Air ที่ใช้งานในปัจจุบันใช้งานไม่ดีเท่าที่ควร และในระยะยาวทำให้ แอร์คอนดิชั่นเนอร์มีเวลาการทำงานที่น้อยลงเช่นกัน
            เริ่มแรกจำเป็นจะต้องมารู้จักกันก่อนว่า แอร์ แต่ละอย่างมีชนิดไหนบ้าง ไปจนถึงเหมาะสมกับการทำงานในประเภทไหน

• Air Conditionลักษณะยึดกำแพง เป็น แอร์คอนดิชั่นเนอร์ที่พบเห็นได้มากมากที่สุดในทุกๆ บ้าน เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก ตัวอย่างเช่น ห้องนอน หรือห้องคอนโด โดย Airแบบนี้ได้รับความนิยมมากรวมทั้งมีให้เลือกหลายประเภทผู้ใช้งานก็เลยสามารถเลือกซื้อให้เหมาะสำหรับแบบการทำงานสำหรับตนเองได้ไม่ยาก
• แอร์ อย่างติดตั้งพื้น ถือเป็น แอร์คอนดิชั่นเนอร์ ประเภทที่มีความทนทาน ทำให้แจกจ่ายความเย็นได้ไกลเลยเหมาะสมกับการใช้งานในบริเวณกว้างขวาง เช่น ห้องโถง หรือไม่ก็สถานที่ที่กว้างๆ
• แอร์คอนดิชั่นเนอร์ ลักษณะติดล่างเพดาน เป็น  Air  ที่ยืดหยุ่นได้สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะเป็นห้องไซต์เล็กไปถึงห้องที่มีสัดส่วนใหญ่โต เหมาะกับการทำงานที่ที่ทำงาน หรือร้านอาหาร
• Air ชนิดฝังภายในเพดาน หรือเรียกว่า แอร์ 4 ทิศทาง โดยที่ แอร์ลักษณะนี้มีรูปลักษณ์ที่เรียบหรู ดูแพง ทำให้ห้องที่ติดตั้ง  Air  แบบนี้ที่ได้ดูสะอาดสะอ้านตา สามารถกระจายแรงลมได้ไกล รวมถึงปราศจากเสียงก่อกวนตอนที่ใช้งาน
• แอร์คอนดิชั่นเนอร์รูปแบบฝังฝ้า คือ แอร์ที่ได้ถูกฝังที่ที่ขอบหรือฝ้าห้อง เหมาะสมสำหรับพื้นที่ในอยากให้ห้อง ที่ได้ดูเป็นระเบียบ อย่างเช่น โรงแรม แต่ว่าในช่วงช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีการนำ  Air  ชนิดนี้เข้ามาใช้เพื่อแต่งบ้านมากขึ้น

            ต่อไปจะพาแนะนำวิธีการทำงานของ แอร์คอนดิชั่นเนอร์ที่ถูกสำหรับการทำงาน  Air Condition ที่ถูกต้องจำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากการเลือกใช้ Air ให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่นั้นก่อน ก็เพราะว่าถ้าหากเลือก  Air Condition ขนาดเล็กไปใช้ที่สถานที่กว้างๆ ก็จะส่งผลให้  Air Condition นั้นทำงานหนักเกินควรรวมทั้งมีอายุการทำงานที่สั้นลงเช่นกัน ต่อจากนั้นเป็นการเลือกความเย็นอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น ห้องนอนสมควรตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส ก็เพราะว่าถือเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะสำหรับการนอนหลับมากที่สุด ก่อนที่จะใช้งาน เครื่องปรับอากาศถ้าหากความร้อนข้างในห้องสูงเกินไปต้องถ่ายเทอุณหภูมิออกไปก่อนที่เปิด แอร์คอนดิชั่นเนอร์ไม่งั้นหากเปิดใช้  Air Condition เลยจะส่งผลให้ เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไปรวมถึงอาจจะเสื่อมโทรมง่ายกว่าเดิม สุดท้ายคือ จำเป็นจะต้องเริ่มทำเริ่มตั้งแต่ในช่วงสร้างบ้านว่าควรจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพราะว่าการที่บ้านอุณภูมิสูงเกินควรแล้วมาเปิด  Air จะทำให้ Air Condition ทำงานได้ไม่เต็มสมรรถนะ สิ้นเปลืองไฟฟ้า และยังพังง่ายด้วย
            สุดท้ายส่วนเกี่ยวกับการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ หรือว่า แอร์คอนดิชั่นเนอร์ตามปกติแล้วเราจำเป็นต้องล้าง เครื่องปรับอากาศแบบคราวใหญ่หนึ่งครั้งต่อปี อย่างไรก็ตามช่วงนั้นก็น่าจะต้องมีการล้างในส่วนนิดๆ หน่อยๆ ที่สามารถทำได้เพื่อสุขอนามัย ประหยัดไฟ พร้อมกับยืดอายุการทำงาน เครื่องปรับอากาศออกไป ในด้านที่เราสามารถชำระล้างเองไม่วุ่นวาย เช่น ที่กรองฝุ่นที่สามารถแกะเครื่องแล้วนำมาแล้วจึงแกะไปชำระล้างโดยที่นำน้ำสะอาดฉีดไล่ฝุ่นออกนำไปผึ่งให้หายชื้นจากนั้นเอากลับไปใส่ในที่เก่า โดยตัวที่กรองฝุ่นควรจะทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง  แผงท่อระบายความร้อน ทำความสะอาดได้ด้วยการใช้แปรงไม่แข็ง พร้อมทั้งนำน้ำฉีดพ่น ชำระล้างทุก 6 เดือน เพื่อจะได้แอร์สามารถเอาอุณหภูมิออกจากห้องได้แบบดี ถ้าหาก Airเกิดไม่เย็นให้รีบหาต้นเหตุ เพราะบางทีสารเคมีผลิตความเย็นคงจะรั่วไหลควรจะเร่งค้นหารวมถึง โทรศัพท์หาช่างให้เร่งแก้ไข รวมถึงที่ห่อท่อสารเคมีทำความเย็นถ้ามีรอยรั่วหรือว่าร่องรอยฉีกขาดจำเป็นจะต้องเร่งปรับปรุงให้เร็วที่สุดด้วย
อย่างที่บอกว่าการเลือก Airซักอันจำเป็นต้องสังเกตก่อนอย่างเช่นบริเวณการใช้งาน ประเภทของ แอร์ที่จะใช้งาน การใช้งานสำหรับ Air ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากเลือกซื้อมาก็ต้องมีการใช้งานให้ดีเพื่อจะได้ แอร์ใช้งานได้มีคุณภาพดีที่สุด รวมไปถึงการดูแลรักษาก็ควรหมั่นชำระล้างรวมถึงเช็คความผิดปกติที่เกิดขึ้นสำหรับที่จะได้แก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที แล้วยังทำให้ แอร์มีประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างยาวนานด้วย

Tags : Air,air condition,เครื่องปรับอากาศ ราคา