สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านสะอาดง่ายๆ ด้วยที่กรองสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 245 อ่าน
            ทุกวันนี้อากาศที่เราสูดเข้าไปเกือบจะเหมือนเป็นสภาพอากาศที่แค่ฝุ่นผงบวกกับสิ่งสกปรกที่ปะปนเข้าในนั้นอาจส่งผลให้เจ็บป่วยง่าย หรือว่าสูดไม่สะดวกได้ เพราะฉะนั้นแล้วการที่เข้าอยู่อยู่ในมลพิษสารพิษเราก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสูดดมอากาศนำสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสังขาร
            อย่างไรก็ดีครั้งเรากลับมาบ้านเราอาจจะคิดว่าอากาศด้านในที่พักสะอาดมากกว่าภายนอกจริงอยู่แต่ว่ายังมีฝุ่นละอองมาจากสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่บางครั้งคุณอาจจะเห็นว่าก็เก็บกวาดบ่อยๆ หรือว่าที่ติดมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายเราที่ไปด้านนอกมาทั้งวัน ทั้งหมดนี้กระตุ้นให้คุณแทบจะต้องอยู่กับมลภาวะสม่ำเสมอ อย่างนั้นแล้วคุณเลยต้องมีตัวช่วยที่มีชื่อว่า ที่ฟอกสภาพอากาศ สำหรับในบ้านเพื่อช่วยให้ที่พักสะอาดพร้อมด้วยคุณได้รับสภาพอากาศสะอาดบ้างข้างในแต่ละวัน
            โดยเครื่องกรองอากาศที่ใช้ภายในบ้านมี 4 ประเภทด้วยกันยกตัวอย่างเช่น 1. ที่ฟอกอากาศประเภทใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่ตามปกติแล้วคาร์บอนประกอบด้วยคุณลักษณะในการดักจับสิ่งสกปรกและกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วเลยเกิดการเอามาจัดทำเป็นไส้กรองสภาพอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนเพื่อใช้ในกรรมวิธีสกัดสภาพอากาศ 2. เครื่องฟอกอากาศประเภทใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ฟอกอากาศรูปแบบนี้มีการคัดประจุไฟฟ้ามาใช้งานสำหรับดักฝุ่นละอองต่างๆ ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าทำให้ดักชิ้นเล็กๆดีถึงแม้จะมีฝุ่นเล็กก็แล้วแต่ อาทิฝุ่นละอองแบบปกติ ขนสัตว์ หรือแม้แต่ควันไฟบุหรี่ ส่งผลให้เครื่องกรองอากาศแบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือมีอาการภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศแบบศักยภาพสำหรับกรองมาก (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกกันว่า HEPA เป็นที่กรองสภาพอากาศที่มีคุณภาพเพื่อกรองสภาพอากาศดีมากเพราะส่วนไส้กรองทำมาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้หมดจดมากที่สุด 99% อย่างไรก็ตามข้อเสียคือไม่สามารถดูดซึมควันหรือซึมซับกลิ่นได้ ถือเป็นเครื่องกรองอากาศที่ค่อนข้างใช้งานภายในสถานพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางที่ โดยที่กรองอายุการทำงานนานมากถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกสภาพอากาศแบบผสมผสาน เป็นที่กรองอากาศที่แบบประสม 2 ระบบไปด้วยกันคงจะคือประสานใน Carbon เข้ากับ Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแท้แต่ว่าผู้สร้างมุ่งหวังให้ที่ฟอกอากาศทำงานออกมาข้างในแบบไหน
            ด้วยแบบที่กรองอากาศทั้งหลายที่กล่าวถึงคงจะที่มีหลายคนงุนงงเกี่ยวกับแล้วจะที่มีรูปแบบการคัดเครื่องกรองสภาพอากาศยังไงเพื่อที่จะเหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุด เริ่มที่จำเป็นจะต้องรู้จักสภาพอากาศในบ้านตัวเองก่อนว่าลักษณะสภาพอากาศรอบบ้านเป็นอย่างไร ประกอบด้วยฝุ่นละอองจำนวนมากหรือไม่ หรือไม่ก็มีกลิ่นเหม็นหรือไม่แล้วจึงค่อยเลือกซื้อที่ฟอกอากาศถัดมาที่การคัดตัวเครื่องกรองสภาพอากาศโดยอันที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 ระบบภายในเพียงอันเดียวคือ  สกัดฝุ่นละออง ดักขี้ผง และดูดซับกลิ่นในเครื่องเดียว รวมทั้งมีพลังที่จะสามารถดูดอากาศโดยรอบ เพื่อที่จะนำไปฟอกพร้อมด้วยปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา ตรวจสอบดูก่อนว่าระบบสกัดสภาพอากาศรวมถึงแผ่นกรองมีกลักษณะลักษณะที่เราหวังหรือเปล่าพร้อมทั้งเป็นไปได้ว่าเอาไปเก็บกวาดได้ไม่ยากหรือไม่รวมทั้งพวกสนนราคาแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาแผ่นกรองหมดเวลาจะหาซื้อได้ไม่ยาก หลังสุดก็เป็นการวิเคราะห์ตัวเลขที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ตัวเลขนี้ก็คือตัวเลขเพื่อช่วยวัดศักยภาพสำหรับใช้งานของเครื่องฟอกอากาศโดยที่ตัวเลขนี้จะมีการมากขึ้นหากมีคนอยู่ในห้อง
            ในเรื่องสำหรับการใช้งานตลอดจนการดูแลรักษาคือ การใช้งานเพื่อเครื่องกรองอากาศควรปิดห้องเพื่อให้เครื่องใช้งานเอาไว้ก่อนที่จะเข้าในห้องเพื่อให้อากาศสะอาดก่อนหน้า เรื่องการดูแลทำความสะอาดคือพึงชะล้างแผ่นกรองอย่างน้อยทุกๆ  3 เดือน  ด้วยการนำมาทำความสะอาดแล้วก็แล้วก็ตากให้แห้ง  สำหรับทำลายไวรัส  หรือไม่ก็ชำระล้างตามที่คู่มือบอกไว้ อย่างไรก็ดีในส่วนคนที่ไม่อยากล้างประจำ ควรจะเลือกซื้อลักษณะประจุไฟฟ้า เนื่องจากถึงแม้ว่าจะมูลค่าแพงกว่าลักษณะนอกจากนี้แต่ไม่ได้ไม่จำเป็นต้องเก็บกวาดประจำตลอดจนทำนุบำรุงง่าย
จะเห็นได้ว่าที่กรองสภาพอากาศมีอยู่หลายแบบกับแนวทางในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการทำงานก็ไม่ยากแบบที่คิดนอกจากนั้นแล้วการทำนุบำรุงความสะอาดสะอ้านก็ง่ายดายอีกด้วย โดยที่ฟอกอากาศมีซื้อกันหลายแบรนด์ด้วยกันเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่มูลค่า 2-3พันบาทไปถึง 4-5 หมื่นเลย

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี