สวัสดี บุคคลทั่วไป

iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 279 อ่าน
iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มค่า
« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2018, 11:52:26 AM »
แม้นโทรศัพท์ตัวหลักของค่าย Apple ในศักราช 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ซึ่งมาพร้อมกับออกแบบและคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็แพงอีกด้วย แต่ทว่าหลายคนอาจลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เปิดตัวแค่ 15 นาที iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำตัวให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักจี่กัน ซึ่งจากนั้นคงจะเปรียบเสมือนเป็นรุ่นที่ถูกลืมเพราะกระแสของ iPhone X แต่รู้ไหมว่า ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus ถึงแม้ว่าจะมีลักษณะหน้าตาไม่ต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นเจ้าของได้ อีฉันจะนำทุกคนไปทำความรู้จักมักจี่กับมือถือรุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
 
iPhone 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus เปิดจัดจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่อเมริกาและจัดจำหน่ายที่บ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่น มีขนาดตัวเครื่องเท่าๆ กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่มีสมรรถนะในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นกัน แต่มีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังคือกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้
 
 ในด้านของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้เลือกเพียงแค่ 2 ความจุ ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งคงจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมพร้อมทั้งเร็วเพิ่มขึ้น จึงทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 แม้นความละเอียดหน้าจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาวะแสงในเวลานั้น เป็นเหตุให้จอดูเป็นธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แบ่งแยกเป็น 4-Core ที่ศักยภาพสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอะไร ซึ่งใช้การทำงานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าสนใจคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปและเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกขั้นชั้นเยี่ยม ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่จำเป็นจะต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างจะเยอะ หรือ ROV ก็เล่นได้มิสะดุด

 กล้องถ่ายรูปได้พัฒนามาจาก iPhone 7 ทั้งคู่โมเดล ถึงแม้ว่าจะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แต่กระนั้นมีการปรับปรุงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้เพิ่มขึ้น จับภาพในสถานการณ์แสงน้อยได้ดีขึ้น ชักรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้มนุษย์เราเลือกสรรปรับแสงใบหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายรูปด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมกับไฟแฟลชจากหน้าจอ Retina HD

                 ในด้านการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนที่ในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูนุ่มนวล ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีเพียง 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกสรรได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ด้านการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จปราศจากสายที่เพิ่มเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง มิจำต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาวางขายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งตอนนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่ทว่าแนะนำว่าสมควรเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 ตกลงว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงดีไซน์ตัวเครื่องเริ่มแรกตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชอบชักรูปน่าจะพึงพอใจการรวมกันของคุณลักษณะของกล้องถ่ายรูปที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งแต้มแสงเงาในภาพได้หลากหลายรูปแบบตามความประสงค์ ทำให้ขณะที่ออก ขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน
 
ส่วนจอที่น่าพึงพอใจผนวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองโทรศัพท์มือถือตัวตัวท็อปใด ๆ ในเวลานี้ก็ถือได้ว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบกับ iPhone x แต่หากว่าใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะขยับขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชี้แนะไปนั้น ก็แนะนำว่ารอคอยไปอีกสักนิด เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8