สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งโอกาสที่ยังคุ้ม

  • 0 ตอบ
  • 229 อ่าน
ในปี 2018 แม้ Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว ซึ่งมาในสเปคโหดโดนใจคนติดใจของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมทั้งเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่พอเหมาะ ราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า แล้วรุ่นที่ออกมาครั้งก่อนในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังน่าจะควักกระเป๋าหามาใช้งาน อยู่ไหมในตอนนี้ ดีฉันจึงจะมาพิจารณาสเปคและข้อเด่นให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตัดสินใจ       


  •  ลวดลายเฉพาะ


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทดีไซน์ระดับโลกสร้างสรรค์สีเฉพาะเจาะจงอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้อารมณ์เป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ส่วนสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่แลดูนุ่มลึกเหมือนกับสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกสรรทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องข้างหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าหากพูดถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่คิดถึงเป็นลำดับแรก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องกล้องถ่ายภาพ ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องข้างหลังคู่พร้อมเลนส์ที่ได้รับการรับรองจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และอีกทั้งได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus ด้วย พร้อมกับระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การถ่ายรูปนั้นนิ่ง เพิ่มเติมศักยภาพในการซูม โฟกัสได้ไวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดการถ่ายรูปใหม่เสริมเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติเพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีตรวจหาใบหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ชนิดเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมกับเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของถ่ายภาพแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมไปถึงการจับภาพตอนค่ำก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องถ่ายรูปข้างหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มากับกล้องถ่ายภาพหน้ากับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การถ่ายรูปในที่มืดค่ำได้ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะสามารถรับแสงได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro ซึ่งทาง Huawei ก็ย้ำในเรื่องของการใช้งานว่ากำลังเร็วจักมิลดน้อยครั้นเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ซื้อ
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยคุณลักษณะไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ ซึ่งเป็นการนำภาพถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในอัลบั้มมาโชว์เป็นวิดีโอ


  •  มือถือตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นยี่ห้อผู้ก่อกำเนิดอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่อีกด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นมือถือรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่เท่าเดิมนะขอรับ


  •  แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และชาร์จรวดเร็วขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเปรียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,200 mAh ด้าน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่ไม่แพงในตอนนี้


ในปฐมฤกษ์ที่โหมโรง Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) สนนราคา 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) ราคา 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) ราคา 23,900 บาท

 อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro โหมโรงมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นย่อมเยาลงมาก แต่บางทีถ้าจ่ายเงินพร้อมด้วยโปรโมชั่นราคาก็ลดน้อยลงกว่าครึ่งเลยเทียว

 นี่เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในเวลานี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา