..คำว่า “ดนตรี” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “ตันตริ” หมายความว่า สาย หรือ เครื่องสาย พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัญฑิตยสถาน บอกคำจำกัดความของคำว่า “ดนตรี” ว่า “ลำดับเสียงอันเพราะ” คำว่า “ดนตรี” ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า “music” คือศิลป์และก็ศาสตร์ ของการร้อยกรองเสียง หรือเสียงอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี
สมัครufabetเข้ามาเป็นทำนอง เสียงผสาน จังหวะ ลีลาท่าทาง รวมทั้งคลื่นเสียง เพื่อเพลงมีองค์ประกอบที่บริบูรณ์ แล้วก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการสั่นไหวอารมณ์ในยุคกรุงจังหวัดสุโขทัย ดนตรีไทยมีลักษณะเป็นการขับลำนำ แล้วก็ร้องเล่น วรรณคดี "ตรีภพพระหล่น" พูดถึงอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี อย่างเช่น ฆ้อง กลอง ฉิ่ง แฉ่ง (ฉาบ) บัณเฑาะว์ พิณ ซอ ปี่ไฉน ระฆัง กรับ แล้วก็กังสดาล
ufabetยุคกรุงศรีอยุธยา มีวงพิณพาทย์ที่ยังคงต้นแบบปี่พาทย์เครื่องห้าราวกับเป็นต้นว่ายุคกรุงจังหวัดสุโขทัย แม้กระนั้นเพิ่มระนาดเอกเข้าไป นับจากนั้นวงพิณพาทย์ก็เลยมี ระนาดเอก ปี่ใน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด กลองสองหน้า ฉิ่ง ส่วนวงมโหรีปรับปรุงจากวงมโหรีเครื่องสี่ เป็นวงมโหรีเครื่องหก เพิ่มขลุ่ย และก็รำมะนา รวมเป็นมี ซอสามสาย กระจับปี่ ทับ (โทน) รำมะนา ขลุ่ย รวมทั้งกรับพวง
ถึงยุครัตนโกสินทร์ เริ่มจากรัชกาลที่ 1 เพิ่มกลองทัดเข้าวงพิณพาทย์อีก 1 ลูก รวมเป็น 2 ลูก เพศผู้เสียงสูง ตัวเมียเสียงต่ำ รัชกาลที่ 2 ทรงพระปัญญาสามารถสามารถการดนตรี ทรงซอสามสาย คู่พระมือเป็นซอสายฟ้าฟาด รวมทั้งทรงพระราชนิพนธ์เพลงไทย ดวงเดือนลอยเลื่อน รัชสมัยนี้กำเนิดกลองสองหน้าปรับปรุงมาจากเปิงมางของมอญ พอเพียงในรัชกาลที่ 3 ปรับปรุงเป็นวงพิณพาทย์เครื่องคู่ มีการประดิษฐ์ระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก และก็ฆ้องวงเล็กให้คู่กับฆ้องวงใหญ่
รัชกาลที่ 4 กำเนิดวงพิณพาทย์เครื่องใหญ่พร้อมการประดิษฐ์ระนาดเอกเหล็ก แล้วก็ระนาดทุ้มเหล็ก รัชกาลที่ 5 สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัติสกุลทรงสร้างสรรค์วงพิณพาทย์ดึกดำบรรพ์ประกอบกิจการเล่นละครดึกดำบรรพ์ ในรัชกาลที่ 6 นำวงดนตรีของมอญเข้าผสมเรียกวงพิณพาทย์มอญโดยหลวงประดิษฐเพราะ (ศร ศิลปร้องเพลง) มีการนำอังกะลุงเข้ามาเผยแพร่เป็นครั้งแรก แล้วก็นำอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีฝรั่ง ตัวอย่างเช่น ขิม ออร์แกนของฝรั่งมาผสมเป็นวงเครื่องสายผสม แล้วจึงเป็นดนตรีไทยที่พวกเราได้มองเห็นจนกระทั่งตอนนี้ ทั้งยังไม่เหมือนกันระหว่างวงต่างๆผู้เขียนท่านต่างๆ