สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานแวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 262 อ่าน
ตำนานแวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2018, 08:55:41 PM »
                ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่ลุ่มหลงในเสียงเพลง หรือเสียงเพลง เชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักมักคุ้นแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกมากมายก่ายกอง โดยเรื่องราวความเป็นมาของยี่ห้อนี้ นับเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สังคมดนตรีRock and Rollเลยก็ว่าได้ และยี่ห้อที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยประวัติของ Marshall นั้น จะมีเรื่องราวยังไงบ้าง อีกทั้งเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์สุดยอดขนาดนี้ พวกเราจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ริเริ่มตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดตั้งต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อจากนั้นก็ได้เปลี่ยนตัวเองมาดำเนินงานกิจการร้านรวงขายเครื่องดนตรี พร้อมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ โดยเริ่มจากการขายกลองชุดกับกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell โดยผู้ซื้อส่วนมากจะเป็นนักดนตรีดนตรีRock and Roll ที่มีความเด่นในยุคนั้น อาทิเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือว่าเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้มากขึ้น
                ถัดจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีโด่งดัง หลายคนต้องการแอมป์ หรือเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าเดิม เนื่องจากปมปัญหาที่เจอเป็นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาขาย และดันประสบความสำเร็จอย่างสูง กลายเป็นการบอกปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงได้สร้างออกมาวางขายอย่างเอาเป็นเอาตาย อีกทั้งได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดแรกเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ รวมไปถึงยังบอกเป็นความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีที่สุดตามที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความน่าเชื่อถือจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์ตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall แบบสรุป อย่างไรก็ดีเมื่อระยะเวลาได้ล่วงพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่คร่ำหวอดในสังคมเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และถูกต้องตามความอยาก หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเยอะขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือว่าคนธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ ซึ่งนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างเพียบเหมือนกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่ซ้ำใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิก สละสลวย โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา อีกทั้งจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ข้างในตัว การออกแบบสวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดพอดีสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการเชื่อมอย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 4.0 ถึงกระนั้นสามารถใช้ร่วมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกย่อยรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้ ซึ่งหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจักอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่คมชัดครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมทั้ง INPUT2 หรือว่า RCA นอกจากนี้ยังมีสมรรถภาพในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเปรียบเสมือนคุณกำลังฟังเสียงดนตรีจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท หากเปรียบเทียบเสียงที่ได้มา จัดว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอิฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งทุกวันนี้นั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด แต่ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall มิเคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall