สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ตัวช่วยสำหรับการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 231 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นนับว่าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านเลยก็เป็นไปได้ เพราะใช้งานง่าย สะดวกสบาย และยังช่วยให้ประหยัดเวลาสำหรับทำความสะอาดที่อยู่อาศัยส่งผลให้แทบทุกที่พักอาศัยควรจะมีเครื่องดูดฝุ่นเอาไว้ในที่พัก แต่การที่จะซื้อเครื่องดูดฝุ่นสำหรับที่จะเอามาใช้งานซักเครื่องจำเป็นต้องมีเหตุผลหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อที่จะเลือกให้เหมาะกับการทำงานดังนั้นแล้วมาดูกันว่าควรจะมีแนวทางสำหรับเลือกกับมีแบรนด์ไหนเสนอแนะกันบ้าง
            ข้อแรกคือ ประเภทสำหรับที่ดูดฝุ่น เป็นเรื่องที่จำเป็นเนื่องจากลักษณะสำหรับที่ดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะกับการทำงานที่แตกต่างไป เครื่องดูดฝุ่นประกอบด้วย 4 แบบ
1.) ที่ดูดฝุ่นประเภทแห้ง เหมาะสำหรับการทำงานในห้องทั่วไป แต่ว่าไม่เหมาะสำหรับบนพื้นพรม ด้วยความที่กำลังสำหรับดูดฝุ่นไม่พอ
2.)  เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย มุ่งเน้นความสะดวกสบายในการใช้ เพราะว่าสามารถชาร์จพลังงานก่อนที่จะเอาไปใช้งาน รวมไปถึงเบาใช้งานไม่ยาก เหมาะกับห้องที่บริเวณน้อย
3.) เครื่องดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดย่อม น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกต่อการทำงานสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำความสะอาดโดยอัตโนมัติได้ตามการตั้งรายการ และยังทำให้เข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการเก็บกวาดได้ง่ายดาย พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางพร้อมกับยางป้องกันกระแทก
            ประเด็นถัดมา เนื้อที่ในการใช้งาน คือประเด็นที่ควรจะเอามาไตร่ตรองเนื่องจากจะเหมือนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกขนาดของเครื่องดูดฝุ่น รวมทั้งที่พักอาศัยของคุณมีมุมอับหรือเปล่า ถ้าหากเลือกซื้อที่ดูดฝุ่นขนาดเล็กเกินไปจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นใช้งานมากไป เก็บกวาดได้ไม่ดี และยังส่งผลให้ชำรุดไวขึ้น
เรื่องที่สาม ประเด็นเกี่ยวกับโครงสร้าง บวกกับประสิทธิภาพสำหรับเก็บกวาดสำหรับที่ดูดฝุ่น ประเด็นนี้ต้องดูตั้งแต่แรงไฟ โดยที่จำเป็นต้องจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานก็เพราะว่าถ้ากำลังไฟน้อยก็มีผลกระทบกับกำลังสำหรับดูดฝุ่น ถัดมาคือพวกฟังก์ชั่นต่างๆ ในแต่ละยี่ห้อกับทุกรุ่นก็มีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น อาจจะอัดฝุ่นละอองเป็นปึกเพื่อง่ายแก่การเก็บ หรือมีระบบการสกัดหลายขั้นเพื่อไม่ให้ฝุ่นผงออกมาจากเครื่อง ฯลฯ เราก็เลยจำเป็นที่จะพิจารณาว่าที่ดูดฝุ่นแบบใดที่ตรงใจเรามากที่สุด
            สุดท้ายก็คือ เรื่องเกี่ยวกับคุณภาพ ราคา บวกกับอายุการใช้งาน คือเรื่องที่จำเป็นต้องพิจารณาว่าคุณภาพและมูลค่าเป็นไปในเหมาะสมกันหรือเปล่าพร้อมทั้งคุ้มที่จะเลือกไปใช้หรือเปล่าเพราะว่าสิ่งที่ตามมาก็เป็นอายุใช้งานถ้าเลือกใช้ของที่ไม่ตรงในการใช้งานไปจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอีกทั้งถือเป็นการเปลืองเงิน
ที่ดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะนำมาแนะนำ ได้แก่

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นแบบกล่อง แบบ CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยให้ทุกคนขจัดฝุ่นละอองได้การรับรองประสิทธิภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ปริมาตรขนาด 1.6 ลิตร บีบบีบฝุ่นละอองกลายเป็นก้อนช่วยให้ง่ายกับการทำลาย ไม่ฟุ้งกระจาย เพราะระบบสกัดฝุ่น 7 ขั้นตอน พร้อมแผ่นกรองเฮป้า กับนาโน ไททาเนียม ดักกลิ่น ตัดการใช้งานอัตโนมัติกรณีเครื่องอุณภูมิสูง มูลค่า 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับโหมดในสภาพการณ์รอบๆ ตัว พลังงาน LI-ION ทำให้ปฏิบัติงานต่อเนื่องได้นาน 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 กระบวนการ ที่มีการเช็ดเก็บฝุ่นประเภทแห้ง หุ่นยนต์จะตรวจหาพื้นที่ที่ไม่สะอาดมากสำหรับที่จะทำความสะอาดโดยเฉพาะ รวมถึงมีโหมดสแกนพื้นผิวที่ไม่เหมือนกันสำหรับที่จะเก็บกวาดอย่างถูกวิธี สนนราคา 21,990 บาท
  • DYSON เครื่องดูดฝุ่นชนิดด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย พร้อมด้วยการทำงาน ทั่วถึงทุแบบ มีความแน่นหนาคงทน ใช้งานง่าย โดยใช้ระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่สามารถเพิ่มเติมการไหลเวียนของอากาศรวมถึงดักฝุ่นละอองขนาดเล็ก หัวทำความสะอาดแบบ Direct-drive ทำความสะอาดตรงเข้าไปกับพรมสำหรับขจัดคราบเปื้อนบนพื้น และ หัวเก็บกวาดลักษณะลูกกลิ้งนิ่มออกแบบมาที่เหมาะกับพื้นแข็ง อีกทั้งมาพร้อมด้วยระบบกลั่นชนิดแกะออกชำระล้างได้ด้วย ด้วยสนนราคา 28,900 บาท


จะเห็นได้ว่า ยี่ห้อแทบทุกยี่ห้อขยันปรับปรุงอีกทั้งใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้ง่ายกับผู้บริโภค ดังที่กล่าวมา การซื้อเครื่องดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะกับการใช้งานจึงไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องดูดฝุ่น ราคา

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี