สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายภาพถ่ายรูป VS กล้องสมาร์ทโฟน หากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วท่านจักเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 219 อ่าน
ครั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่ารำลึกจนจำต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นภาพถ่าย และมันจะยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก ครั้นเมื่อภายในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้องถ่ายรูป" นั่นเอง ซึ่งในสมัยนี้ ใครก็ตาม ต่างก็มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกล้องพร้อมมาด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นสะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่ อีกทั้งยังมีความกระจ่างไม่ได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายภาพ DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แต่ที่แท้นั้นมันยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่ต่างกันอยู่เพียบเลยทีเดียว
 
อาทิเช่นเรื่องเซนเซอร์ เนื่องมาจากกล้องถ่ายรูปจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะรวบรวมแสงได้เหนือกว่า ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมไปถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายรูปเท่าใดนัก และสิ่งเหล่านี้ยังมีผลกระทบต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ ซึ่งครั้นย้อนกลับมาดูภาพจากกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะเห็น Noise มากกว่าภาพจากกล้องทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่เล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วไป
 
ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายภาพเหนือกว่ากล้องถ่ายภาพจากมือถือ ถ้าหากเป็นการขยายของกล้องถ่ายภาพ เจ้าสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่ยี่ห้อโทรศัพท์มือถือที่จะมีคุณสมบัตินี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อได้ความข้องเกี่ยวของสิ่งของบนภาพที่ดียิ่ง รวมทั้งหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เหตุเพราะในโทรศัพท์มือถือของท่านคงมีทั้งรูปภาพ เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่ๆ ถ้าหากคุณคิดว่าจะใช้กล้องมือถือชักรูปคุณตลอดทริปที่กินซ่าหรือไม่พาคู่ควงเที่ยว Universal Studios เพราะเธอคงมิอยากมานั่งลบภาพถ่าย ลบบทเพลงโปรด หรือไม่ก็ลิสภาพยนตร์ดังของเจ้าหรอก แต่ถ้ายอมสะพายกล้องถ่ายรูปสักตัว พร้อมด้วยเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน มั่นใจว่าเจ้าได้ทั้งรูปที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของคุณแน่นอน
 
นั่นเป็นข้อมูลขั้นต้นว่าเพราะอะไรเราถึงต้องยอมสะพายกล้องตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือไว้ก่อน และอาจหยุดพักยาวๆ เลย หากได้รู้จักกับกล้องถ่ายภาพตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดเด่น ๆ ของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องสมาร์ทโฟนไหม
 
กล้อง Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดๆที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่พอเหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี จุดหลักของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องจากกล้องถ่ายภาพ Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยหากว่าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ที่แสงน้อย โดยที่เธอไม่จำเป็นจะต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย อีกทั้งยังกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ อีกทั้งทำให้การบันทึกภาพยนตร์ของเธอมิเป็นตัวปัญหาอีกด้วย โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยทีเดียว ที่ถึงแม้จะถือด้วยมือ และไม่ได้มีอุปกรณ์เพิ่มเติมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย

 จะเห็นว่านี่แค่ข้อเด่นเรื่องเดียวของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนขาดลอยแล้ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์หลากหลาย อีกเพียบเลยที่ยังมิได้กล่าวถึง อาทิเช่น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้คุณปรับตั้งค่าตามที่เจ้าต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน ฯลฯ และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเพียบอยู่เช่นกัน เพื่อภาพมีความน่าดึงดูดใจมากเพิ่มขึ้น และจุดดีอีกอย่างของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสบายมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เพียงเท่านั้น ตัวนี้จึงสามารถลบคำปรามาสที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : olympus ราคา

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา