สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศภายในบ้านใสสะอาดไม่ยาก โดยใช้ที่ฟอกสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 224 อ่าน
            ทุกวันนี้สภาพอากาศที่พวกเราสูดเข้าเกือบคืออากาศมีแต่ฝุ่นพร้อมทั้งสิ่งโสโครกที่ปะปนมาในนั้นเป็นไปได้ว่าทำให้เจ็บป่วยง่าย หรือไม่ก็หายใจไม่คล่องได้ ฉะนั้นแล้วการที่อาศัยอยู่ในมลภาวะสิ่งโสโครกเราก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นหายใจอากาศนำสิ่งเหล่านั้นไปข้างในสังขาร
            แต่ว่าพอคุณกลับบ้านเราอาจจะเห็นว่าอากาศข้างในที่พักอาศัยสะอาดสะอ้านกว่าข้างนอกก็จริงแต่ทว่าและยังมีฝุ่นมาจากข้าวของเครื่องใช้ในบ้านที่บางทีเราคงเห็นว่าก็ซักล้างอยู่บ่อยๆ หรือว่าที่เกาะมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายคุณที่ออกไปข้างนอกมาตลอดทั้งวัน สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้เราแทบจะต้องอยู่กับมลภาวะเป็นประจำ ดังนั้นเราก็เลยจำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยที่มีชื่อว่า เครื่องกรองอากาศ ไว้ในบ้านเพื่อให้ช่วยให้ที่อาศัยสะอาดสะอ้านพร้อมด้วยเราได้รับอากาศสะอาดบ้างสำหรับแต่ละวัน
            โดยที่เครื่องฟอกอากาศที่ใช้งานในบ้านมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันเช่น 1. ที่ฟอกอากาศแบบใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยตามธรรมดาแล้วคาร์บอนประกอบด้วยคุณสมบัติในการดูดสารพิษบวกกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วก็เลยมีการนำมาผลิตเป็นไส้กรองอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนเพื่อใช้ภายในกรรมวิธีกรองสภาพอากาศ 2. เครื่องฟอกอากาศแบบใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ที่ฟอกสภาพอากาศลักษณะนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้งานสำหรับดักจับขี้ฝุ่นทั้งหลาย เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถดักฝุ่นผงดีแม้จะมีอนุภาคเล็กมากก็ตาม อาทิขี้ผงทั่วๆ ไป ขนสัตว์ แม้แต่ควันบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศกระนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือเป็นภูมิแพ้ 3. ที่กรองสภาพอากาศประเภทศักยภาพสำหรับสกัดสูง (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกกันว่า HEPA เป็นที่กรองสภาพอากาศประกอบด้วยศักยภาพเพื่อกรองอากาศสูงมากเพราะส่วนไส้กรองประดิษฐ์เข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดสภาพอากาศให้ใสสะอาดมากถึง 99% อย่างไรก็ดีจุดบกพร่องคือไม่สามารถซึมซับควันหรือซึมซับกลิ่นได้ คือเครื่องกรองสภาพอากาศที่โดยมากใช้ภายในโรงพยาบาลหรือโรงงานบางอย่าง โดยที่ที่กรองมีอายุการทำงานนานมากถึง 4 ปี  4. เครื่องกรองอากาศประเภทผสม เป็นที่กรองอากาศที่ลักษณะประสม 2 หน่วยไปด้วยกันคงคือผสมของ Carbon และ Ionic หรือ HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแท้แต่ว่าผู้ประกอบการหวังให้ที่ฟอกอากาศใช้งานออกมาบนแบบไหน
            โดยแบบที่กรองอากาศเท่าที่มีที่เอ่ยถึงอาจมีหลายคนคลางแคลงใจเกี่ยวกับแล้วจะประกอบด้วยวิธีการเลือกเครื่องกรองอากาศอย่างใดเพื่อที่จะเหมาะสมกับตนเองที่สุด เริ่มที่จำเป็นต้องรู้จักอากาศข้างในบ้านตัวเองว่าประเภทสภาพอากาศรอบๆ บ้านเป็นอย่างไร ประกอบด้วยฝุ่นมากหรือเปล่า หรือว่ามีกลิ่นไม่ดีหรือไม่เลยค่อยเลือกใช้ที่ฟอกสภาพอากาศถัดจากนั้นที่การคัดเลือกตัวที่ฟอกสภาพอากาศโดยที่อันที่ดีควรจะมี  2 ระบบข้างในเครื่องเดียวก็คือ  กรองขี้ผง ดักขี้ผง พร้อมกับซับกลิ่นในเครื่องเดียว รวมทั้งมีพลังที่ทำให้ดึงอากาศรอบๆ สำหรับที่จะนำไปฟอกพร้อมกับปลดปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออก เช็คดูให้ดีว่าระบบสกัดสภาพอากาศและแผ่นกรองมีกลักษณะลักษณะที่เราหวังหรือเปล่าพร้อมด้วยเป็นไปได้ว่าเอาไปทำความสะอาดได้ไม่ยากหรือไม่รวมไปถึงพวกสนนราคาแผ่นกรองเป็นอย่างไรเพื่อที่จะตอนที่แผ่นกรองหมดอายุจะหาเลือกซื้อสะดวก ท้ายที่สุดคือการคิดทบทวนตัวเลขที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้คือตัวเลขสำหรับเปรียบเทียบคุณภาพในการใช้งานสำหรับที่กรองอากาศโดยค่านี้จะมากขึ้นถ้าหากมีคนอยู่ที่ห้อง
            ประเด็นเกี่ยวกับการใช้งานพร้อมทั้งการบำรุงรักษาก็คือ การใช้งานส่วนเครื่องฟอกสภาพอากาศควรปิดห้องให้เครื่องฟอกอากาศทำงานเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปในห้องเพื่อให้อากาศใสสะอาดก่อน ในด้านการดูแลทำความสะอาดก็คือพึงทำความสะอาดที่กรองขั้นต่ำทุก  3 เดือน  โดยการนำมาชำระล้างแล้วก็แล้วก็ตากให้หายชื้น  สำหรับที่จะฆ่าเชื้อโรค  หรือว่าทำความสะอาดตามที่เอกสารแนะนำบอกไว้ อย่างไรก็ตามในส่วนผู้ที่ไม่อยากเก็บกวาดเป็นประจำ ควรจะเลือกซื้อประเภทประจุไฟฟ้า เพราะแม้จะมูลค่ามากกว่าแบบอื่นแต่ไม่ต้องล้างประจำรวมถึงรักษาไม่ยาก
จะเห็นได้ว่าที่ฟอกสภาพอากาศมีอยู่หลายชนิดอีกทั้งรูปแบบเพื่อเลือกให้เหมาะสมกับการทำงานก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนอกจากนั้นแล้วการบำรุงรักษาความหมดจดยังสะดวกมากอีกด้วย โดยที่ที่ฟอกอากาศมีเลือกซื้อกันหลายแบรนด์ด้วยกันอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ ตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี