สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 225 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: ธันวาคม 17, 2018, 07:16:41 PM »
ย้อนกลับในศักราช 2001 โทรศัพท์มือถือได้เริ่มมีการซื้อขายในวงกว้างแต่ด้วยเหตุที่ความเจริญของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาจริงเอาจังมากนัก เมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ในเวลานั้น ส่งผลให้มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เท่าไหร่นักเมื่อเทียบเคียงกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แม้กระนั้นยุคสมัยก็แปรผันพร้อมทั้งความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบันนี้ มือถือ กลับเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกมือถือทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นสมาร์ทโฟนถูกซื้อขายไปรวมยอดโดยประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 อันดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือน ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากพ้นไปแค่ 3 เดือน พอก้าวเข้าสู่มีนาคม 2018ซึ่งสร้างเงินรายได้คร่าวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งถึงแม้เงินได้รวมยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาของผลกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนมาขายเร็วทันใจขึ้น บวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่จำหน่ายในหลายๆ แว่นแคว้น และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถสร้างผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งเงินรายได้รวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ส่วนเงินรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐฯคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จำหน่าย iPhone X ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเปรยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินรายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบครั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และขายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในศักราช 2017 หัวเว่ยได้มอบโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าตำรับเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ เนื่องมาจากฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone คุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว ทั้งนี้เพราะมือถือขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี

 แม้ยอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ เช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายชาติมี 4G และปี2018 หวังว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของเครือข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประมาณกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกโดยต้องคอยจับตามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์มือถือเหล่านี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดขายและต่อสู้ความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่