สวัสดี บุคคลทั่วไป

คิลปไทย :FN

  • 0 ตอบ
  • 233 อ่าน
คิลปไทย :FN
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2018, 11:00:34 AM »
สมัครufabetศิลป์ไทยได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศมาเป็นเวลายาวนานแล้วก็ได้ปรับปรุงสืบไปผสมกับความเลื่อมใสเขตแดนufabetจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตน ราว พุทธศักราช 300 จนกระทั่ง พุทธศักราช 1111 ศาสนาพุทธนำเข้ามาโดยคนแขก บ่งบอกถึงอิทธิพลที่มีต่อศิลป์ไทยในสมัยข้างหลังทั้งยังด้านภาษา วรรณกรรม ศิลปกรรม โดยกระจัดกระจายเป็นกรุ๊ปศิลป์ยุคต่างๆเริ่มตั้งแต่ยุคอาณาจักรทวาราวดี ศรีวิชัย จังหวัดลพบุรี เมื่อกลุ่มของผู้คนไทยตั้งตัวมั่นคงแล้ว ศิลป์ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็เลยทรงอิทธิพลต่อศิลป์ไทย ช่างไทยมานะประดิษฐ์ให้มีลักษณะพิเศษกว่างานศิลปะของชาติอื่นๆมีการประดิษฐลวดลายไทยเป็นสิ่งประดับทำให้ลักษณะศิลป์ไทยมีต้นแบบเฉพาะ แล้วก็ได้แทรกสอดวัฒนธรรม ขนบประเพณีรวมทั้งความรู้สึกของชาวไทยเอาไว้ในงานพวกนั้น ดังจะมองเห็นได้จากภาพฝาบ้านตามวัดต่างๆวังราชวัง ตลอดจนเครื่องเพชรพลอยรวมทั้งของใช้ทั่วๆไป
ลักษณะ

ศิลป์ไทยได้รับอิทธิพลจากจารีตแล้วก็วัฒนธรรมในสังคมไทย เป็นต้นว่า ชีวิตความเป็นอยู่และก็การดำเนินชีวิตของชาวไทยที่ได้แทรกสอดเอาไว้ภายในผลงานที่ประดิษฐ์ขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นศิลปกรรมที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา อาจจะบอกได้ว่าศิลป์ไทยทำขึ้นเพื่อเกื้อหนุนศาสนาพุทธ เป็นการเชื่อมโยงแล้วก็โน้มน้าวจิตใจของสามัญชนให้กำเนิดความเคารพนับถือในศาสนาพุทธ
จิตรกรรมไทย จัดเป็นภาพเล่าที่เขียนขึ้นด้วยความนึกคิดจินตนาการของชาวไทย มีลักษณะตามอุดมคติของกระบวนงานช่างไทย เป็น
เขียนสีแบน ไม่คิดถึงแสงสว่างและก็เงา นิยมตัดเส้นให้เห็นได้ชัดเจน และก็เส้นที่ใช้ จะแสดงอารมณ์ความรู้สึกขยับเขยื้อนนุ่มนวล

เขียนตัวพระ-นาง เป็นแบบละคร มีลีลาท่าทาง อาการเช่นเดียวกัน แตกต่าง กันด้วยสีร่างกายรวมทั้งเครื่องเพชรพลอย

วาดแบบตานกมองดู หรือเป็นภาพน้อยกว่าสายตา โดยมุมมองจากที่สูงลงสู่ ข้างล่าง จะมองเห็นเป็นรูปเรื่องราวได้ตลอดภาพ

เขียนต่อเนื่องกันเป็นตอนๆสามารถมองจากซ้ายไปขวาหรือข้างล่างรวมทั้งบนได้ทั่ว ภาพ โดยขั้นตอนภาพด้วยหิน ต้นไม้ กำแพงเมือง และก็เส้นสินเทาหรือ คชกริด ฯลฯ

เขียนเสริมแต่งตกแต่งด้วยลวดลายไทย มีสีทองคำสร้างภาพให้เด่นกำเนิดบรรยากาศ สุขสว่างแล้วก็มีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ

ลายไทย เป็นลายที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยมีธรรมชาติมาเป็นแรงผลักดัน โดยปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงธรรมชาติให้เป็นลวดลายใหม่ อาทิเช่น ตาอ้อย ก้ามปู เปลว รวงข้าว และก็ดอกบัว อื่นๆอีกมากมาย ลายไทยเดิมทีเรียกกันว่า "กระทีก" คือลวดลาย อย่างเช่น กระทีเปลี่ยน กระครั้งกก้านม้วน ถัดมามีคำใช้ว่า "มาศ" คือ ทองคำ สุวรรณปิดทอง ทองตู้ลายทองคำ แม้กระนั้นจะมีใช้เมื่อใดยังไม่มีหลักฐานแจ่มกระจ่าง ซึ่งคำเดิม "กระทีก" นี้รู้เรื่องเป็นคำแต่ว่าอดีตกาลที่มีมาตั้งแต่ยุคอาณาจักรทวาราวดี โดยเรียกต่อเนื่องกันจนกระทั่งเป็นคำเฉพาะ ซึ่งก็คือลวดลายก้านขด ลายก้านปู ลายก้าง ลายกระครั้งกเปลว ฯลฯ ลายไทยที่จัดเป็นแม่บทใช้สำหรับในการเขียนภาพมี 4 ลาย เป็นลายกระทีก ลายผู้หญิง