สวัสดี บุคคลทั่วไป

มองความสำเร็จจากยี่ห้อทัพหน้าเทคโนโลยีที่สมัญญา Asus

  • 0 ตอบ
  • 226 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในวันนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ค่อยๆ ครองใจลูกค้า จนขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้สำเร็จโดยเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายอะไหล่คอมพิวเตอร์, ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนกระทั่งสมาร์ทโฟน, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นต้นกำเนิดความมีชัยของบริษัทจากไต้หวันแห่งนี้ มาเกาะติดกันได้เลยครับ
 
 บริษัท Asus ตั้งขึ้นครั้นเมื่อปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากบุรุษทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung ซึ่งทั้ง 4 บุคคลนั้น ทำงานที่ Acer ร่วมกันมาก่อนจะตกลงใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแต่ก่อนจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus แรกเริ่มถูกขนานนามว่า Pegasus หมายความว่าม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ หมายถึงสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและความรอบรู้ผู้ริเริ่มทั้ง 4 นำมาตั้งคือนามบริษัท เพื่อแทนความมุ่งหมายว่าอยากจะดำเนินธุรกิจการค้าด้วยความงามสง่าน่าไว้วางใจ         

 หลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น  Asus แทน เนื่องด้วยมีคำนิยามที่คล้องจองกัน และที่ต้องซูฮกในเล่ห์เหลี่ยมด้านธุรกิจเป็นแนวคิดที่ว่าเมื่อหาเป็นลำดับตัวหนังสือ จะพบชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
 
                 และแน่นอนว่าหากว่าพูดคุยถึง Asus หลายคนคงรำลึกถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งจุดตั้งต้นของสายการผลิตนี้อยู่ราวๆ ปี 2006 ที่ Asus ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการปรับปรุงโน้ตบุ๊กที่เน้นความไว แรง มีการใช้สีและเครื่องหมายของ Lamborghini ซึ่งโน้ตบุ๊กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
 
ปี 2007 Asus ก็ได้คิดค้นความไม่ซ้ำใครให้กับแวดวงโน้ตบุ๊กด้วยการเปิดฉาก Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่สนใจ และทำให้ Asus ถูกจับตาในฐานะผู้อยู่เหนือด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
 
 ต่อมา Asus ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กออกมาอีกหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามากระทั่งในปี 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดฉาก Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวเริ่มแรกที่มีจอ พร้อมกับ Docking คีย์บอร์ดมาให้
 
 การแบ่งชนิดโน้ตบุ๊กของ Asus ใช้การแยกตามการใช้งาน อาทิ
                รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นซีรีย์ N เน้นการใช้งานเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก
                รุ่นสำหรับเกมเมอร์จะใช้รหัสซีรีย์ ROG (Republic of Gamer) ที่ดีไซน์มาสำหรับการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
 
โดยโน้ตบุ๊กในแวดวงธุรกิจการค้าจะมี 3 ซีรีย์ คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่มุ่งเน้นการดีไซน์หรูหรา มีสไตล์ VivoBook มุ่งเน้นที่ความบาง เบา Transformer Book โน้ตบุ๊กที่ปลดหน้าจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI โน้ตบุ๊กลูกผสม สามารถเป็นไปได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต

 แน่นอนว่า ทันทีที่เจอะเจอความมีชัยกับท้องตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแล้ว  Asus ก็ต้องหันเหมาบุกท้องตลาดมือถือด้วย โดยเริ่มจากการทำ PDA และโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับวางจัดจำหน่าย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile เป็นส่วนใหญ่ และยังออกคุณลักษณะ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดย่อม พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูปดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล

 ในปี 2014 Asus ได้เปิดฉากตระกูลโทรศัพท์มือถือตัวท็อปของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่ชื่อว่า Zenfone โดยมีจุดดีที่สเปกจัดเต็มในมูลค่าที่ประหยัด โดยคำว่า Zen เป็นคำที่คล้องจองเข้ากับคำคมหนึ่งของแดนไต้หวัน ซึ่งแปลได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำผสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เหมือนกับกับเป็นมือถือในอนาคต ความหมายรวมคือ อุปกรณ์ที่ตอบความต้องการทั้งในประเดี๋ยวนี้และอนาคตกาล Asus ยังสร้างสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2

 ในปี 2018 Zenfone ได้แยกเป็นรุ่นหลักๆ ดังนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา ประณีต พกพาสะดวก
ZenFone 4 Max เป็นโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการดีไซน์ให้เหมาะสำหรับการเดินทาง เนื่องจากแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie มุ่งเน้นการถ่ายแบบเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้สวยงามแบบเรียลไทม์ช่วยจ่ายเสียงรบกวนรอบข้าง เหมาะกับสตรีมเมอร์
ZenFone สมาร์ทโฟนที่ออกแบบออกมาเอาใจวัยหนุ่มสาว

 ในส่วนของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการปรับปรุงมาอย่างสม่ำเสมอ แยกเป็นซีรีย์ตามจุดประสงค์การใช้งานดังต่อไปนี้
 
Ponepad เป็นการประสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างโทรศัพท์มือถือกับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ดีไซน์ลักษณะใกล้เคียงไดอารี่จดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความง่ายดายให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานจากโทรศัพท์มือถือ ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงตัวเป็น Notebook ได้

 
ตอนนี้ Asus ได้แยกย่อยตนเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
                Pegatron บริษัทผลิตชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็น เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงต่างๆ
                Unihan คือผู้ผลิตเคสคอมพีซี และอุปกรณ์อื่นๆ
                Asus จะขายเจาะจงสินค้าที่เป็นยี่ห้อ Asus เดิมทีแค่นั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Asus ราคา

Tags : Asus,Asus ราคา,เอซุส